นายกฯสั่ง”คลัง-ธปท.”แก้ปัญหาSMEsขาดแหล่งทุน

นายกฯสั่ง”คลัง-ธปท.”แก้ปัญหา SMEs ขาดแหล่งทุน เหตุ 10 ปีอุตสาหกรรม SMEsไม่ฟื้น พร้อมมอบ 3 กระทรวงเศรษฐกิจเร่งฟื้นอัตรากำลังการผลิตประเทศ ตั้งเป้าผลักดันจีดีพีปีนี้ ให้ถึง 3.5%
#ทันหุ้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งที่ 7 ประจำปี 2568 ที่จังหวัดสงขลาวันนี้(18 ก.พ.)ว่า ได้ขอให้กระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)หารือร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหา SMEs ที่ยังเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้น้อย ทำให้ไม่มีเงินทุนในการปรับปรุงพัฒนากิจการ ซึ่ง SMEs คิดเป็น 75 % ของผู้ประกอบการทั้งประเทศ
“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการทำให้อุตสาหกรรม SMEs ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งการได้สินเชื่อ จะทำให้ผู้ประกอบการเหล่านั้น สามารถมีเงินทุนเพื่อการพัฒนาธุรกิจได้ จึงอยากให้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่การขยายตัวจีดีพีของไทยต่ำรั้งท้ายในอาเซียนนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอบคำถามนี้ว่า กระทรวงการคลังได้ตั้งเป้าหมายจีดีพีในปีนี้ที่ 3% และอยากจะผลักดันให้ถึง 3.5% ซึ่งต้องมีการผลักดันในทุกภาคส่วน
“ปัจจัยคือ การลงทุนในประเทศที่ต้องดึงเม็ดเงินลงทุนมาลงทุนในประเทศ เพราะเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่แย่มาพักใหญ่ เราต้องผลักดันในทุกภาคส่วน ไม่สามารถผลักดันเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว สามารถเกิด Miracle ได้ ซึ่งภาคเอกชนก็ต้องเข้ามาช่วยด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นอกจากนี้ ตนยังสั่งการให้ 3 กระทรวงเศรษฐกิจ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ หาแนวทางการฟื้นอัตรากำลังการผลิตของประเทศ (Capital Utilization) หลังจากอัตรากำลังการผลิตของประเทศขยายตัวลดลง
“ประเด็นดังกล่าวท่านนายกรัฐมนตรีฝากให้ 3 กระทรวงติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะตัวเลขการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น แต่การใช้กำลังการผลิตในประเทศลดลง จึงขอให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันเร่งหามาตรการป้องกันปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุด”
ทั้งนี้ ตนได้ขอบคุณทุกภาคส่วน หลังจากที่สภาพัฒน์ได้รายงานไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วโดยรัฐบาลดำเนินนโยบายมาถูกทางแล้ว ทำให้จีดีพีในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ขยายตัว 3.2% และคาดการณ์ว่า ในปีนี้ แนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“การขยายตัวของจีดีพีไตรมาสที่ 4 ของปี 67ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงผลของมาตรการและนโยบายด้านเศรษฐกิจ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการตลอดมาในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม ปี 67”
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สภาพัฒน์ ได้รายงานจีดีพีของปี 67 และ 68ที่ขยายตัว 2.5% และ 2.8 % ตามลำดับ โดยในปี 67การผลิตในภาพอุตสาหกรรมโดยรวม ติดลบ 0.5 % ดีขึ้นจากปี 66 ที่ติดลบ 2.7 % ขณะที่ การใช้อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย อยู่ที่ 57.27 %