รีเซต

โจรปล้นทอง ห้างดังปัตตานี เป็นอดีตกู้ภัย รับสารภาพหาเงินใช้หนี้ ยันปฏิบัติการเดี่ยว

โจรปล้นทอง ห้างดังปัตตานี เป็นอดีตกู้ภัย รับสารภาพหาเงินใช้หนี้ ยันปฏิบัติการเดี่ยว
มติชน
20 เมษายน 2565 ( 14:32 )
72

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองห้างทองยั่งฮับเต็ง แอนด์ จิวเวอรี่ ซึ่งตั้งอยู่ในห้างบิ้กซี ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา กวาดสร้อยคอทองคำไป 13 บาท 50 สตางค์
ล่าสุดเมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 20 เมย. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนจ.ปัตตานี สามารถตามแกะรอยและจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ ชื่อ นายอนันตชัย หวานจันทร์หอม หรือ แอ๊ด อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ประวัติเคยเป็นอาสาสมัครกู้ชีพปัตตานี ตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ที่ 194/2565 ลงวันที่ 19 เมษายน 65 โดยตามไปจับกุมตัวได้บริเวณหน้าร้านบูมเมอร์แรง ถนนนิพัทธิ์ภักดี เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จากการตรวจค้นในตัวยึดสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 เส้นหนักประมาณ 3 บาท

และเมื่อเวลา 04.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ได้นำตัว นายอนันตชัย หวานจันทร์หอม หรือ แอ๊ด มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองปัตตานี ซึ่งผู้ต้องหารายนี้รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง ส่วนรถ จยย.ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุนั้น ได้นำไปฝากไว้กับเพื่อนที่บ้านเช่าพื้นที่ ม.7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้น และพบรถ จยย.คันก่อเหตุ แต่มีการดัดแปลงโดยการใช้สีสเปย์สีพ้นทับเป็นสีบอร์นเงิน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีกรายซึ่งเป็นเพื่อนเนื่องจากพบว่ามีมือมีร่องรอยของสีสเปย์ ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองปัตตานี

นายอนันตชัย หวานจันทร์หอม หรือ แอ๊ด ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนไม่ได้เล่นการพนันแต่มีหนี้เงินกู้เยอะมากจึงก่อเหตุเช่นนี้ลงไป โดยตนไม่มีการวางแผนล่วงหน้าแต่อย่างใด แค่ไปดูลาดราวมาก่อนจะลงมือปล้น 1 วัน และไม่เคยก่อเหตุปล้นที่หาดใหญ่หรือที่อื่นมาก่อน เพิ่งจะก่อเหตุปล้นที่นี้เป็นครั้งแรก และยืนยันว่าไม่มีใครร่วมก่อเหตุปล้นในวันนั้น แต่มีแค่ขอช่วยให้ทำเรื่องรถที่พ่นสีให้เท่านั้น ซึ่งรถที่ใช้หลบหนีก็เป็นของตนเอง โดยทองที่ปล้นมาก็ได้นำไปขายในพื้นที่หาดใหญ่ โดยแบ่งขาย ไปหลายร้าน

ด้าน พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี เปิดเผยว่า ก่อนผู้ต้องหาไปชิงทองก็ได้เข้าไปกดเงินที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.อยู่ตรงข้ามห้างบิ๊กซี จากนั้นจึงได้เข้าไปซื้อน้ำในร้านสะดวกซื้อ และผู้ต้องหาได้ถอดแมสเพื่อดื่มน้ำจนทำให้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพวงจรปิดเห็นหน้าตาชัดเจน ทำให้รู้เส้นทางหลังก่อเหตุที่ใช้หลบหนี พร้อมได้ตรวจสอบความเชื่อมโยงกับมือถือ สรุปว่าตรงกันทั้งหมด จึงขออนุมัติจากศาลเพื่อขอหมายจับ เนื่องจากผู้ต้องหามีการเคลื่อนไหวไปที่ อ.สะเดา และที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวเข้าจับกุมทันที

หลังจับกุมได้และได้ขยายผลจึงทราบว่ารถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุยังอยู่ในพื้นที่ปัตตานี จึงเข้าไปตรวจสอบ พบรถ จยย.ที่ซุกซ่อนในบ้านหลังหนึ่ง และมีการพ่นสีใหม่ เพื่อดัดแปลงรถ จากเดิมสีดำ พ่นสีเป็นสีบรอนเงิน และยังพบได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน จากที่ดูมือก็พบว่ามีร่องรอบคลาบของสีติดอยู่ จึงคุมตัวไว้ หลังจากนี้จะสอบสอบว่ามีความเกี่ยวข้องตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุหรือหลังก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืน ตรวจแล้วเป็นอาวุธปืนบีบีกัน และยังพบกระเป๋าที่ใส่ปืนและทองอีกด้วย

ผกก.สภ.เมืองปัตตานี กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทราบว่าทองที่ชิงมานั่นได้นำไปขายที่ร้านทองทั้งหมด 7 ร้าน ใน อ.หาดใหญ่ ร้านล่ะ 1-2 เส้น คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่เราคลี่คลายได้เร็ว เราพยายามทำให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า จ.ปัตตานี ปลอดภัยที่สุด เหตุการณ์ไม่ใช่เกิดเฉพาะ 3 จังหวัด ที่ไหนก็มีแต่เมื่อเกิดแล้วต้องจับได้ ดีที่สุดก็ไม่อยากให้เกิด ส่วนผู้หญิงที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด หลังเกิดเหตุเจ้าตัวมาให้ปากคำ และมีความสอดคล้องทุกอย่างว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง จึงได้ตัดประเด็นเรื่องนี้ไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง