เยอรมนีหวั่นรพ. แบกภาระหนักจาก 'ไข้หวัดใหญ่' ควบ 'โควิด-19'
เบอร์ลิน, 7 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (6 ต.ค.) โลธาร์ วีเลอร์ ประธานสถาบันโรแบร์ต ค็อก (RKI) ของเยอรมนี แถลงข่าวว่าระบบบริการสุขภาพของประเทศอาจเผชิญภาระหนัก 2 เท่าจากโรคไข้หวัดใหญ่และโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว โดยวีเลอร์ชี้ว่าแม้โดยทั่วไปไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าโรคไข้หวัดใหญ่จะระบาดรุนแรงเพียงใด แต่คาดว่ายอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในเยอรมนีจะเพิ่มขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว และหากเยอรมนีมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด-19 จำนวนมากในเวลาเดียวกัน โรงพยาบาลจะต้องแบกรับภาระหนักหน่วง ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่ต้องการเตียงผู้ป่วยและแพทย์
"เราจึงต้องป้องกันยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 และโรคไข้หวัดใหญ่พุ่งสูงพร้อมกันในฤดูหนาว" วีเลอร์กล่าว โดยหากมีประชาชนและคนกลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนมากขึ้น และเยอรมนีดำเนินมาตรการทางสาธารณสุขในปัจจุบันต่อไป สถานการณ์ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะดีขึ้นตามกัน
เยนส์ ชปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี กล่าวย้ำว่ารัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ทันเวลาในปริมาณมากกว่าปี 2020 โดยบรรดาสถานพยาบาลได้รับวัคซีนรวม 27 ล้านโดส
ปัจจุบันมีชาวเยอรมันฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสกว่า 53.9 ล้านคน ทำให้อัตราการฉีดวัคซีนของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 64.8 ขณะอัตราการอุบัติของโรคโควิด-19 ในรอบ 7 วัน ลดลงเล็กน้อยจาก 63.6 รายต่อประชาชน 100,000 คน ในวันอังคาร (5 ต.ค.) เป็น 62.3 ราย ในวันพุธ (6 ต.ค.)
ขณะเดียวกันยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวันของเยอรมนีลดลงจากเมื่อวันพุธของสัปดาห์ก่อนหน้าราว 230 ราย ลงมาอยู่ที่ 11,547 ราย ในวันพุธ (6 ต.ค.)