รีเซต

วันแรกในฝรั่งเศส "เศรษฐา" ชูธง "IGNITE THAILAND"

วันแรกในฝรั่งเศส "เศรษฐา" ชูธง "IGNITE THAILAND"
TNN ช่อง16
16 พฤษภาคม 2567 ( 20:59 )
16
วันแรกในฝรั่งเศส "เศรษฐา" ชูธง "IGNITE THAILAND"

วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในการเยือนอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยภารกิจสำคัญในการเข้าร่วมงาน Thailand – France Business Forum ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและฝรั่งเศส โดยมีกำหนดการพบปะหารือกับผู้นำและนักธุรกิจชั้นนำของทั้งสองประเทศ



เวทีเชื่อมธุรกิจไทย-ฝรั่งเศส เสริมแกร่งเศรษฐกิจ


งาน Thailand – France Business Forum จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและฝรั่งเศส โดยถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศได้พบปะ แลกเปลี่ยนข้อมูล และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจร่วมกัน ซึ่งนับเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากฝรั่งเศสในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ อาทิ การขนส่ง การบิน และ Digital ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว


"เศรษฐา" อวดโฉมผ้าไทย "เพชรราชวัตร" สู่สายตาชาวโลก ณ กรุงปารีส


นายกฯ เศรษฐา เลือกสวมผ้าลายอย่าง "เพชรราชวัตร" ในวันแรกของการเยือนครั้งนี้ เพื่อแสดงความภาคภูมิใจในศิลปะและงานฝีมือของไทย โดยผ้าลายนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์ของจังหวัดเพชรบุรี นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังสะท้อนถึงอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของไทยได้เป็นอย่างดี




“ร้านผ้าบ้านชะอานมอบผ้าพันคอผืนนี้ให้ผม ก่อนเข้าประชุม ครม.สัญจร ที่ จังหวัดเพชรบุรี และผมได้แจ้งไว้ว่าผมจะตั้งใจพกผ้าผืนนี้เดินทางไปทริป ฝรั่งเศส - อิตาลี เพื่ออวดความสวย ความประณีตของงานผ้าไทย พร้อมกับถ่ายทอดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ให้ชาวโลกได้เห็นว่าศิลปะไทยเราไม่น้อยหน้าใคร วันนี้ผมทำตามที่พูดไว้ และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นสินค้าที่มีคุณภาพของคนไทย เช่น ผ้าลายอย่าง นี้ได้รับการต่อยอด ทั้งด้านการผลิตและการขาย เพื่อนำรายได้เข้าสู่จังหวัด” นายกฯ กล่าว


ชู 3 ธุรกิจดาวรุ่ง ดึงดูดลงทุน


ไฮไลท์สำคัญของวันแรก คือ การเข้าร่วมและกล่าวปาฐกถาในงาน Thailand – France Business Forum ซึ่งนายกฯ ได้เปิดตัววิสัยทัศน์ "IGNITE THAILAND" มุ่งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมระดับโลกใน 8 ภาคส่วนหลัก ได้แก่ การท่องเที่ยว การแพทย์และสุขภาพ อาหารและเกษตรกรรม การบิน การขนส่ง การผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เศรษฐกิจดิจิทัล และการเงิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้นำเสนอศักยภาพและโอกาสการลงทุนในไทยแก่ภาคเอกชนฝรั่งเศสในงาน Thailand - France Business Forum โดยเน้นใน 3 สาขาหลัก ได้แก่ การขนส่ง (Logistics), การบิน (Aviation), และดิจิทัล (Digital) 



รัฐบาลมีเป้าหมายยกระดับไทยให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งเชื่อมโยงภูมิภาคผ่านโครงการ Landbridge เพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย พร้อมทั้งผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค ผ่านการขยายและปรับปรุงสนามบิน รวมถึงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) 


นอกจากนี้ ไทยยังมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังมีการพบหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ และหารือในประเด็นความร่วมมือต่างๆ อาทิ การท่องเที่ยวและการส่งออก ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ระดับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์


เปิด Thailand – France Business Forum ดึงลงทุนขนส่ง-บิน-ดิจิทัล"


ก่อนเริ่มงาน Thailand – France Business Forum นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและฝรั่งเศส พร้อมทั้งสะท้อนความพร้อมของไทยในการต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ อีกทั้งยังเชิญชวนภาคธุรกิจฝรั่งเศสให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมด้านการขนส่ง การบิน และดิจิทัลของไทยมากขึ้นด้วย

งาน Thailand – France Business Forum ในครั้งนี้ ถือเป็นผลสำเร็จจากการเดินทางเยือนของนายกฯ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและฝรั่งเศสที่มีเพิ่มมากขึ้น

การเยือนฝรั่งเศสของนายกรัฐมนตรีเศรษฐาในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางการค้าการลงทุนระหว่างไทยและฝรั่งเศส ตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และเตรียมพร้อมผลักดันไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาค เพื่อต่อยอดความร่วมมือทวิภาคีให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป




เรียบเรียง ยศไกร รัตนบรรเทิง 

ภาพ : รัฐบาลไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง