BAFSเล็งอัพยอดเติมน้ำมัน เที่ยวบินจากจีนดันเต็มสูบ

BAFS  ส่งสัญญาณความต้องการน้ำมันอากาศช่วงวันที่1-13 มิถุนายน 2566 เพิ่มขึ้นแตะระดับ96% ขณะที่ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานในช่วง 5 เดือนแรกปี 2566 เร่งตัวขึ้น 78% เล็งปรับเป้าหมายยอดเติมทั้งปี 2566 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประเมินไว้ 4,200 ล้านลิตร รับอานิสงส์จากเที่ยวบินหนุนเต็มสูบโดยเฉพาะจีน ด้าน โบรกเคาะ ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 36.50บาท

ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเห็นสัญญาณความต้องการเติมน้ำมันอากาศยาน (Jet Fuel) ที่ทยอยเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงวันที่ 1มิถุนายน 2566 โดยเฉพาะ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยตั้งแต่วันที่ 1 - 13 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ความต้องการเร่งตัวขึ้นราว 96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค. – พ.ค. 2566) ของท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิเร่งตัวขึ้นถึง 78% YoY สูงกว่าที่ประมาณการไว้เมื่อช่วงต้นปี 2566

บริษัทจึงอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าหมายปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานของปี 2566ขึ้นจากเดิมที่ประมาณการไว้ราว 4,200 ล้านลิตร ซึ่งจะส่งผลบวกต่อรายได้และศักยภาพการทำกำไรของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

"ปริมาณการเติมน้ำมัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมืองเร่งตัวขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีของความต้องการเดินทางในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีนที่เริ่มเร่งตัวขึ้น ขณะที่ความต้องการน้ำมัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเองก็ยังทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ดังนั้นบริษัทจึงขอติดตามให้เห็นอัตราเร่งที่ชัดเจนอีกช่วงหนึ่ง เพื่อประกอบการพิจารณาปรับเพิ่มประมาณการการเติมน้ำมันทั้งปีขึ้นให้สอดคล้องกัน"

ท่องเที่ยวหนุนเต็มสูบ

ด้าน ดร.สักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยระหว่างการแถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ฉบับย่อ วานนี้ (14 มิ.ย.2566) ว่า ธปท.ได้พิจารณาปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งปี 2566 ขึ้นเป็นราว 29 ล้านคน จากเดิมที่คาดการณ์ราว 25 ล้านคนพร้อมคาดการณ์ปริมาณนักท่องเที่ยวจีนเฉลี่ยทั้งปี 2566 ที่ราว 5-6 ล้านคน บนสมมติฐานปริมาณเที่ยวบินจีน-ไทยเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป โดยหากอุตสาหกรรมการบินจีนสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าสมมติฐาน จะถือเป็น Upside Risk ต่อประมาณการของ ธปท.

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่ากำไรสุทธิของ BAFS ในไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 46 ล้านบาท (ดีขึ้น YoY จากขาดทุนสุทธิ 120 ล้านบาทในไตรมาส 2/2565 , -12% QoQ) โดยผลประกอบการที่พลิกฟื้น YoY จะเป็นเพราะปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้นถึง 69% YoY เป็น 1,100 ล้านลิตรในไตรมาส 2/2566 แต่อย่างไรก็ตาม กำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะไม่มีรายได้เงินปันผลพิเศษ 32 ล้านบาทจาก Solar Farm  2 แห่งในญี่ปุ่นซึ่งมีกำลังการผลิตรวมตาม PPA 10MW เหมือนในไตรมาส 1/2566

แต่หากไม่รวมรายได้เงินปันผลพิเศษดังกล่าวคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ BAFS ในไตรมาส 2/2566 จะเพิ่มขึ้น QoQ เพราะเราคาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3% QoQ เป็น 1,100 ล้านลิตร เนื่องจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) มีแผนจะเพิ่ม Slot เที่ยวบินจากประเทศจีนของสายการบิน 24 แห่งเป็นประมาณ 400 เที่ยวต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป จากประมาณ 100 เที่ยวต่อสัปดาห์ ในเดือนพฤษภาคม

เคาะ”ซื้อ”-เป้า 36.50 บ.

นอกจากนี้ยังคาดว่าปริมาณการขนส่งเชื้อเพลิงของ BAFS จะเพิ่มขึ้น 4% QoQ เป็น 215 ล้านลิตร เนื่องจากอัตราการใช้งาน (Utilization Rate) ท่อส่งน้ำมันในภาคเหนือ (บางปะอิน-พิจิตร-ลำปาง) ของ Fuel Pipeline Transportation (FPT) เพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นรวมของธุรกิจเติมน้ำมันเครื่องบินและขนส่งเชื้อเพลิงจะขยับเพิ่มขึ้น QoQ จาก 37.5% เป็น 40.0% เนื่องจากปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น

ยังคงคำแนะนำ”ซื้อ” BAFS และยังคงราคาเป้าหมาย SoTP ปี 2566 ที่ 36.50 บาท เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผู้บริหารยังระบุว่าบริษัทอาจจะปรับเพิ่มเป้าปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินปีนี้ที่ 4,200 ล้านลิตรขึ้นอีก ในขณะที่เรายังคงสมมติฐานของเราเอาไว้ที่ 4,844 ล้านลิตร