"กรมทะเล" จับมือ จ.ภูเก็ต ชวนจิตอาสา 2,500 คน ปลูก "ป่าชายเลน" เฉลิมพระเกียรติฯ ร.10
“กรมทะเล” จับมือ จ.ภูเก็ต ชวนจิตอาสา 2,500 คน ปลูก “ป่าชายเลน” เฉลิมพระเกียรติฯ ร.10
วันที่ 26 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมกับ จ.ภูเก็ต จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 68 พรรษา และเนื่องในวันสากลเพื่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าชายเลน หรือ “วันป่าชายเลนโลก” ภายใต้โครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า ณ สวนสาธารณะสะพานหิน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีจิตอาสากว่า 2,500 คน ร่วมกันปลูกป่าชายเลนกว่า 20 ไร่
นายโสภณ ทองดี อธิบดี ทช. เปิดเผย ตามแนวนโยบายรัฐบาลที่พยายามผลักดันการเพิ่มและรักษาพื้นที่ป่าของประเทศไทย ภายใต้ “โครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า” โดยได้กำหนดแผนการดำเนินงานเป็น 3 ระยะ ซึ่งในระยะแรก กำหนดเพิ่มพื้นที่ป่าไม่ต่ำกว่า 1,010 ไร่ ภายในวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 นั้น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ ทส. ได้สั่งการให้ ทช. กำหนดพื้นที่ปลูกป่าชายเลนและดำเนินงาน เพื่อสอดรับแนวนโยบายดังกล่าวทั้งในพื้นที่เป้าหมายเร่งด่วนและพื้นที่อื่นๆ อีกทั้ง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส.ได้เน้นย้ำถึงการดำเนินงานอย่างมีส่วนร่วม เปิดโอกาสให้ประชาชนจิตอาสาได้ร่วมในทุกกิจกรรม
“สำหรับการดำเนินงานในวันนี้ (26 กรกฎาคม 2563) เป็นการดำเนินงาน ภายใต้โครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า และยังเป็นวันสากลเพื่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าชายเลน หรือวันป่าชายเลนโลก ที่กลุ่มประเทศสมาชิกยูเนสโกได้ให้ความเห็นชอบร่วมกันตั้งแต่ปี 2558 โดย ทช. ร่วมกับ จ.ภูเก็ต และจิตอาสาในพื้นที่กว่า 2,500 คน ร่วมกันปลูกและฟื้นฟูป่าชายเลนบริเวณสวนสาธารณะสะพานหิน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต กว่า 20 ไร่ และจะร่วมกันดูแลผืนป่าชายเลนนี้ให้เจริญงอกงามและเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ของชาวภูเก็ต ต่อไป” นายโสภณ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายโสภณ กล่าวว่า ทช.ได้เตรียมแผนการดำเนินการช่วงปี 2563 – 2565 โดยจะปลูกป่าชายเลนจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 ไร่ และในระยะปี 2565 – 2570 จะดำเนินการปลูกและฟื้นฟูป่าชายเลน รวมแล้วไม่น้อยกว่า 133,290 ไร่ ในพื้นที่ 23 จังหวัดชายฝั่งทะเล
“พลังของจิตอาสายิ่งใหญ่ และสามารถช่วยให้ผืนป่าชายเลนทั่วประเทศฟื้นคืนความสมบูรณ์และสมดุลได้อย่างไม่ยาก ขอเพียงพวกเราทุกคนช่วยกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ช่วยกันปลูก ช่วยกันดูแล ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพียงแค่นี้ เราก็จะมีผืนป่าชายเลนที่สมบูรณ์ สร้างสิ่งแวดล้อมที่แข็งแรง มีฐานทรัพยากรเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และที่สำคัญ เราจะได้ผืนป่าที่มีคุณภาพให้ลูกหลานเราได้ดูแลและใช้ประโยชน์ ต่อไป” อธิบดี ทช.กล่าว
ด้าน นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้ให้นโยบายกับ จ.ภูเก็ต ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนว่า จังหวัดเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่ได้รับความนิยมระดับโลก รองรับนักท่องเที่ยวหลายล้านคนต่อปี สร้างรายได้เข้าประเทศปีละนับแสนล้านบาท
แต่ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 กิจกรรมท่องเที่ยวภายในจังหวัดชะลอตัว ในทางกลับกัน ท้องทะเลภูเก็ตเหมือนได้หยุดพักและฟื้นตัวโดยธรรมชาติในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือน แต่สำหรับพื้นที่ป่าชายเลนหากจะรอให้ฟื้นตัวโดยธรรมชาติอาจจะใช้เวลานาน ดังนั้น จ.ภูเก็ต จึงได้ร่วมกับ ทช. และจิตอาสาในพื้นที่ร่วมกันปลูกป่า เพื่อพลิกฟื้นความสมบูรณ์ของป่าชายเลนในพื้นที่
“นอกจากนี้ จ.ภูเก็ต มีแผนการขยายและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนและป่าบกอีกหลายแหล่ง ซึ่งได้ประสานสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เตรียมความพร้อมและประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานแล้ว ทั้งนี้ แม้ว่าภาคธุรกิจการท่องเที่ยวอาจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่อยากให้ทุกคนใช้ช่วงเวลานี้ดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงผืนป่าชายเลนให้มีความสมบูรณ์ สวยงาม เพราะทะเลเปรียบเสมือนชีวิตและจิตวิญญาณของชาวภูเก็ต จึงขอให้ทุกคนมีส่วนร่วมรักษา เพื่อให้เมืองภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่อไป” นายณรงค์ กล่าว