ถอดรหัส ‘โคราช’ แผนรับน้ำท่วม-ภัยแล้ง แม้ลำตะคองยังพอใช้

รัฐบาลเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม-ภัยแล้งปี 2568 ที่โคราช “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ลงพื้นที่กำชับทุกหน่วยวางแผนรัดกุมแม้ลำตะคองยังมีน้ำเพียงพอ
แม้เขื่อนลำตะคองยังมีน้ำเพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภค แต่รัฐบาลไม่ประมาท สั่งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำในทุกรูปแบบ ทั้งฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยในฤดูฝน 2568
“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่นครราชสีมา กำชับหน่วยงานเร่งบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ พร้อมเน้นย้ำการวางแผนล่วงหน้าแบบรอบด้าน
ประเด็นสำคัญ
• รองนายกฯ ลงพื้นที่โคราช กำหนดแนวทางรับมือทั้งน้ำท่วม-ภัยแล้ง
• บริหารจัดการอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่งให้เพียงพอกับความต้องการ
• ดำเนินการฝนหลวง เพิ่มน้ำต้นทุนในเขื่อนสำคัญ
• ซ่อมแซมแหล่งน้ำท้องถิ่น พร้อมรณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัด
• เตรียมแผนพัฒนาแหล่งน้ำใหม่เพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุน
ฤดูฝนปีนี้ รัฐบาลกำหนดเป้าหมายชัดเจนในการรับมือทั้งภาวะฝนทิ้งช่วงและน้ำหลาก โดยเน้นการบริหารจัดการเชิงรุก ครอบคลุมทั้งการจัดสรรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ร่วมกัน
ประเสริฐลงพื้นที่โคราช กำหนดแผนรับมือครอบคลุม
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประชุมร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับทราบสถานการณ์น้ำและกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
สทนช. ได้รับมอบนโยบายให้ประสานทุกหน่วยงานในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณเสี่ยง เพื่อเตรียมมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบให้เกิดน้อยที่สุด พร้อมสั่งการให้เร่งดำเนินการตามแผนรับมือฤดูฝน 2568
“ลำตะคอง” น้ำเหลือน้อย แต่ยังไม่กระทบการใช้งาน
ข้อมูลล่าสุดจาก สทนช. ระบุว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคองมีปริมาณน้ำเพียง 50.14 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 16% ของความจุเก็บกัก แต่ยังถือว่าเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค
อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อื่น ๆ ได้แก่ ลำพระเพลิง มูลบน และลำแซะ มีระดับน้ำระหว่าง 37%-42% ของความจุเก็บกัก ซึ่งถือว่าต่ำกว่าปี 2567 ทำให้ต้องเร่งวางแผนจัดสรรน้ำอย่างเข้มงวด
ใช้ฝนหลวงเพิ่มน้ำต้นทุน – วางระบบจัดการล่วงหน้า
กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้รับคำสั่งให้เดินหน้าปฏิบัติการฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะลำตะคอง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักของจังหวัดนครราชสีมา
ขณะเดียวกัน กรมชลประทาน จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับมอบหมายให้เร่งซ่อมแซมและปรับปรุงแหล่งน้ำเดิม ให้สามารถเก็บน้ำในฤดูฝนไว้ใช้ช่วงแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เร่งประชาสัมพันธ์ – รณรงค์ใช้น้ำประหยัด
หนึ่งในมาตรการสำคัญคือการแจ้งเตือนภัยน้ำล่วงหน้าและการให้ข้อมูลประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเน้นการสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมของชุมชนในระดับพื้นที่
ประชาชนในทุกภาคส่วนได้รับการขอความร่วมมือให้ใช้น้ำอย่างประหยัด โดยเฉพาะในช่วงที่ปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในระดับต่ำ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะน้ำขาดแคลน
เตรียมแผนพัฒนาแหล่งน้ำ – ขอรับงบสนับสนุน
เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำในระยะยาว จังหวัดนครราชสีมาได้รับมอบหมายให้รวบรวมข้อมูลและจัดทำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ที่จำเป็น เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลกลาง
แนวทางนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการกักเก็บน้ำให้มากขึ้น ทั้งเพื่ออุปโภคบริโภค เกษตรกรรม และการพัฒนาด้านอื่น ๆ ในระดับชุมชน
แม้สถานการณ์น้ำในนครราชสีมายังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่การเตรียมพร้อมรับมืออย่างรอบด้านจึงถือเป็นหัวใจสำคัญ ทั้งการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักเดิม การสร้างแหล่งน้ำใหม่ และการสื่อสารข้อมูลกับประชาชนอย่างใกล้ชิด
ทุกมาตรการล้วนมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ การลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด พร้อมวางรากฐานการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมั่นคงในระยะยาว