รีเซต

ส.อ.ท.ย้ำรัฐต้องเลิกเทสต์ แอนด์ โก ฟื้นศก. โล่งดัชนีเชื่อมั่นอุตฯฟื้น 89.2 สูงสุดรอบ2ปี

ส.อ.ท.ย้ำรัฐต้องเลิกเทสต์ แอนด์ โก ฟื้นศก. โล่งดัชนีเชื่อมั่นอุตฯฟื้น 89.2 สูงสุดรอบ2ปี
มติชน
7 เมษายน 2565 ( 13:16 )
40

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 89.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 86.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ค่าดัชนีฯ สูงสุดในรอบ 25 เดือน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563

 

ปัจจัยที่สนับสนุนความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้ ได้แก่ การผ่อนคลายมาตรการควบคุม โควิด-19 ในประเทศและหลายประเทศทั่วโลกส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวและความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ขณะที่การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและการปรับรูปแบบมาตรการ Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมาช่วยอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ในเดือนมีนาคมผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมเร่งการผลิตสินค้า เพื่อส่งมอบก่อนวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์

 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน กดดันให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการปรับตัวสูงขึ้นทั้งจากราคาพลังงานและราคาวัตถุดิบ อาทิ อาหารสัตว์ ปุ๋ยเคมี สินแร่สำหรับผลิตเหล็กอลูมิเนียม เป็นต้น

 

ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้นได้แก่ ราคาน้ำมัน ร้อยละ 78.5 สภาวะเศรษฐกิจโลก ร้อยละ 55.2 ปัจจัยที่มีความกังวล ลดลง ได้แก่ สถานการณ์ระบาดของโควิด-19  ร้อยละ 62.2 เศรษฐกิจในประเทศ ร้อยละ 48.1 อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ร้อยละ 42.3  สถานการณ์การเมืองในประเทศ ร้อยละ 40.1 และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 39.5 ตามลำดับ

 

ดัชนีฯคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 99.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 97.1 ในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลายลงจากการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ ทำให้ประชาชนออกมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้นส่งผลอุปสงค์ในประเทศมีทิศทางดีขึ้น ขณะที่ภาคการส่งออกของไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจโลก

 

สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ

1)  ยกเลิกมาตรการ Test & GO เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมทั้งจัดเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขในการรองรับการปรับให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น เพื่อ สร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนและนักท่องเที่ยว

 

2)  เร่งแก้ไขปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนและวัตถุดิบราคาแพง อาทิ ปรับลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็นต่อภาคการผลิต รวมทั้งปลดล๊อคเงื่อนไขและโควต้าการนำเข้าวัตถุดิบโดยเฉพาะในวัตถุดิบที่ขาดแคลน

 

3)  ทบทวนการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) และออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME เพื่อลดต้นทุนการผลิต เช่น ส่วนลดค่าไฟฟ้า

 

4)  เร่งเจรจากับจีน-เวียดนาม ขอขยายเวลาเปิดด่านเป็น 24 ชม. เพิ่มช่องทาง Green Lane ในการตรวจสินค้าผลไม้ รวมทั้งการเตรียมแผนสำรองในการส่งออกผลไม้ทางเรือ/เครื่องบิน เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้จากไทยไปจีนผ่านด่านทางบก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง