ความลับของแอตแลนติกใต้ ทำไมบริเวณนี้จึงไร้พายุ?

แม้โลกจะเผชิญกับพายุหมุนเขตร้อนมากมายในหลายภูมิภาค ตั้งแต่เฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ไต้ฝุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ไปจนถึงไซโคลนในซีกโลกใต้ แต่กลับมีจุดหนึ่งที่เงียบอย่างน่าประหลาดใจนั่นก็คือบริเวณ มหาสมุทรแอตแลนติกใต้ โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้
หากพิจารณาจากแผนที่เส้นทางของพายุทั่วโลก จะเห็นได้ว่ามี “ช่องว่าง” ขนาดใหญ่ทางตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ และเส้นทางพายุทางตะวันออกของทวีปก็มีเพียงไม่กี่เส้นเท่านั้น คำถามคือ ทำไมบริเวณนี้ถึงไม่มีพายุหมุนเขตร้อน?
ปัจจัยแรกที่สำคัญคือ อุณหภูมิของผิวน้ำทะเลที่เย็นเกินไป สำหรับการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาใต้ ซึ่งได้รับอิทธิพลจาก กระแสน้ำเปรู (Peru Current) ที่พาน้ำเย็นจากทวีปแอนตาร์กติกขึ้นมาทางเหนือ ทำให้อุณหภูมิน้ำไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่พายุสามารถก่อตัวได้ นั่นคือประมาณ 26°C
อีกปัจจัยสำคัญคือ ลมเฉือนในแนวดิ่ง (vertical wind shear) ซึ่งหมายถึงความแตกต่างของทิศทางและความเร็วลมในแต่ละระดับความสูงของบรรยากาศ โดยลมเฉือนในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้มักมีความแรงมากพอที่จะทำลายเมฆและโครงสร้างของพายุที่เริ่มก่อตัว ทำให้ไม่สามารถพัฒนาเป็นพายุที่สมบูรณ์ได้
บริเวณนี้มีลมเฉือนแรงเป็นพิเศษเนื่องจาก ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างเส้นศูนย์สูตรและขั้วโลกมีมากกว่าซีกโลกเหนือ จึงทำให้ความเสถียรของบรรยากาศต่ำ และยากต่อการพัฒนาของระบบหมุนเวียน
นอกจากนี้ ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ พายุจำนวนมากมีต้นกำเนิดจาก คลื่นกระแสลมตะวันออกจากแอฟริกา (African easterly waves) ที่พัดพากลุ่มเมฆฝนและพายุฝนฟ้าคะนองออกจากแผ่นดินใหญ่แอฟริกาเข้าสู่มหาสมุทร ซึ่งคลื่นเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของพายุหลายลูก แต่ในซีกโลกใต้ ไม่มีสายพานธรรมชาตินี้ จึงไม่มีการป้อนพลังงานหรือความชื้นอย่างต่อเนื่องที่จะนำไปสู่การก่อตัวของพายุในลักษณะเดียวกัน
แม้โอกาสจะน้อยมาก แต่ก็เคยมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เกิดขึ้น ในปี 2004 เกิดพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ ชื่อว่า “คาทารีนา” (Catarina) ซึ่งก่อตัวนอกชายฝั่งบราซิล และพัดขึ้นฝั่งที่รัฐรีโอกรันดี-ดู-ซูล ด้วยความเร็วลมถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมง (160 กม./ชม.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และความเสียหายกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนั้นมีการบันทึกการเกิดพายุอีก 2 ลูกในปี 2010 และ 2011 แต่ล้วนเป็นพายุที่ไม่ได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการจาก NOAA
แม้จะมีข้อมูลพายุน้อยมากในบริเวณนี้ แต่บางส่วนอาจเกิดจาก การบันทึกข้อมูลที่ยังไม่ครอบคลุม โดยเฉพาะก่อนยุคดาวเทียม การติดตามพายุในพื้นที่ห่างไกลเช่นมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ทำได้ยาก ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา กองอุตุนิยมวิทยาทางทะเลของกองทัพเรือบราซิล (HCMM) ได้เริ่มตั้งชื่อพายุเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน (subtropical storms) ในภูมิภาคนี้ด้วยตนเอง โดยใช้เกณฑ์ที่อาจต่างจากองค์กรระหว่างประเทศ ส่งผลให้จำนวนพายุที่ “ถูกตั้งชื่อ” อาจสูงกว่ามาตรฐานขององค์กรอื่นอย่าง NOAA อย่างไรก็ตาม ในช่วงกว่า 15 ปีที่ผ่านมา มีพายุเพียงไม่ถึง 10 ลูกจากทั้งหมดที่เคยทำให้ฝั่งของอเมริกาใต้ได้รับผลกระทบโดยตรง
อีกหนึ่งข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือ ไม่มีพายุหมุนเขตร้อนลูกใดเคยข้ามเส้นศูนย์สูตร เนื่องจากบริเวณ 0 องศาละติจูดไม่มีแรงโคริโอลิส (Coriolis force) ซึ่งเป็นแรงหมุนจากการหมุนของโลกที่จำเป็นต่อการก่อตัวของพายุหมุน จึงเป็น “แนวกั้นธรรมชาติ” ที่พายุไม่สามารถข้ามผ่านได้
แม้มหาสมุทรแอตแลนติกใต้จะดูเงียบสงบจากพายุหมุนเขตร้อน แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง หากเงื่อนไขแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต เช่น ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลอุ่นขึ้น หรือแนวลมเปลี่ยนแปลง อาจทำให้ภูมิภาคที่เคยสงบกลายเป็นพื้นที่เฝ้าระวังใหม่ได้ในอนาคตอันใกล้ก็เป็นได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
