รีเซต

ธ.ก.ส.รอคลังชงครม.อนุมัติ แฮร์คัตหนี้สูงวัยกว่า4พันล้าน

ธ.ก.ส.รอคลังชงครม.อนุมัติ แฮร์คัตหนี้สูงวัยกว่า4พันล้าน
ทันหุ้น
13 มิถุนายน 2568 ( 11:47 )
12

#ธ.ก.ส. #ทันหุ้น - ธ.ก.ส.รอคลังชงมาตรการแฮร์คัตหนี้สูงวัยวงเงิน 4-5 พันล้านบาท ตั้งเป้าพยุงหนี้เสียปีนี้ให้อยู่ที่ประมาณ 5.5%สินเชื่อใหม่เติบโต 5 หมื่นล้านบาท ทิศทางดอกเบี้ยเงินกู้ยังไม่ปรับลด ระบุ ความท้าทายของแบงก์อยู่ที่ฐานลูกค้าสูงวัยลูกหลานไม่สานต่ออาชีพเกษตรกร


นายฉัตรชัย  ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.มีโครงการที่จะเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียเรื้อรังในกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งธ.ก.ส.ได้ประเมินคุณภาพตัวลูกหนี้แล้วว่า ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้อีกแล้ว อย่างไรก็ดี การเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มนี้นั้น กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเสนอเข้าสู่การอนุมัติของคณะรัฐมนตรี


*มูลหนี้ราว 4-5 พันล้าน

“ลูกหนี้กลุ่มนี้ เราเห็นว่า ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ โดยเป็นหนี้เสียที่เรื้อรังมานาน ซึ่งเราพบว่า มีจำนวนลูกหนี้กลุ่มนี้อยู่ประมาณ 1หมื่นบัญชี มูลหนี้ราว 4-5 พันล้านบาท” นายฉัตรชัย กล่าวและว่า อย่างไรก็ดี แนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มนี้ จะต้องอยู่บนพื้นฐานว่า จะต้องทำให้รัฐเสียหายน้อยที่สุด


สำหรับภาพรวมหนี้เสียของธนาคารนั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 5.31% ของสินเชื่อรวม 1.67ล้านล้านบาท ซึ่งธ.ก.ส. พยายามจะพยุงให้ระดับหนี้เสียไม่ไหลไปสูงจนถึงระดับ 8-9% ในช่วงปีก่อนหน้า โดยปีนี้ตั้งเป้าจะรักษาระดับหนี้เสียให้อยู่ที่ประมาณ 5.5% บวกลบ ทั้งนี้ ในทุกๆ ปี ระดับหนี้เสียจะปรับขึ้นสูงสุดในช่วงเดือนที่ 8 หรือ 9เพราะเป็นช่วงที่ นายฉัตรชัย กำหนดให้มีการชำระหนี้


นายฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า ระดับหนี้เสียที่เราจะพยายามรักษาให้อยู่ในระดับ 5.5%บวกลบดังกล่าวจะอยู่ภายใต้การเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ต้องอยู่ที่ประมาณ3-5 หมื่นล้านบาท จากยอดสินเชื่อรวมในปีที่แล้ว

“สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารนั้น เราจะยังไม่ปรับลด เพราะที่ผ่านมา เราได้ปรับลดไปมากแล้ว ทั้งนี้ เรามองว่า ภาครัฐควรจะเร่งจ่ายเงินสำหรับโครงการที่ธ.ก.ส.ได้เข้าไปช่วยดำเนินการตามนโยบายให้เป็นตามไทม์ไลน์ของโครงการ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีสภาพคล่องมากขึ้นและจะสามารถลดต้นทุนการเงินของธนาคารและลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น”


*ปัญหาสูงวัย

นายฉัตรชัย  ยังมองถึงความท้าทายของธนาคารในขณะนี้ว่า ธนาคารกำลังเผชิญกับปัญหาฐานลูกค้าที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก ขณะเดียวกัน บุตรหลานของเกษตรกรก็สานต่ออาชีพเกษตรน้อยลง นอกจากนี้ เกษตรกรยังใช้เทคโนโลยีเก่าในการผลิต อีกทั้ง การส่งเสริมเกษตรกรในอดีตจะเน้นไปที่การผลิต แต่ไม่พุ่งเป้าไปที่การทำการตลาด ดังนั้น ปัญหาเหล่านี้จึงเป็นความท้าทายและความเสี่ยงของธนาคาร

ขณะเดียวกัน จากสถานการณ์ภัยไซเบอร์ในปัจจุบันที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นและมีรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ การหลอกให้โอนเงินล่วงหน้า การหลอกขายสินค้าออนไลน์ เว็บไซต์ปลอมแอบอ้างหน่วยงานรัฐ รวมถึง SMS และ LINE ปลอมแฝงลิงก์มัลแวร์ อันส่งผลกระทบให้ประชาชนได้รับความเสียหายทางทรัพย์สินและชื่อเสียง ธ.ก.ส. จึงร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดตัว บริการแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ ฟีเจอร์ใหม่บน LINE Official BAAC Family ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางการสื่อสารดิจิทัลหลักของธนาคาร


ปัจจุบันที่มีผู้ติดตามกว่า 14 ล้านราย เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัยให้ประชาชนได้เข้าถึงเครื่องมือในการเช็ก - แจ้ง - เตือนภัยมิจฉาชีพได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ บัญชีม้าหรือบัญชีปลอม ต้องสงสัย เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยและอันตราย รวมไปถึงการแจ้งเบาะแสอาชญากรรมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียลไทม์ แบบ All in one Place ครบจบในแชตเดียว ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในการยกระดับบริการในแพลตฟอร์มดิจิทัลให้เป็นมากกว่าการสื่อสารข้อมูลข่าวสารผลิตภัณฑ์และบริการ


โดยความร่วมมือกับ บช.สอท. ในครั้งนี้ จึงเป็นการพัฒนาบริการที่ ปลอดภัย ใช้ง่าย และเข้าถึงได้จริง ที่มีการบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ และยังเป็นต้นแบบของการผนึกกำลังระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสร้าง ภูมิคุ้มกันทางดิจิทัล ด้วยการวางรากฐานระบบ Early Warning ที่จะช่วยให้คนไทยมีความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ ซึ่ง ธ.ก.ส. และ บช.สอท. พร้อมเดินหน้าสร้างภูมิคุ้มกันความรู้ด้านภัยไซเบอร์ในวงกว้าง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง