ASAPชูดีลขายรถพันคัน ผลงานเด้งท่องเที่ยวหนุน

#ASAP #ทันหุ้น - ASAP รับเต็มช่วงหยุดยาว “สงกรานต์” คนแห่จองรถเที่ยวไทยอื้อ เดินหน้าขายยูสคาร์ล็อตแรก 1 พันคัน เสริมพอร์ตรับทรัพย์ คาดชัดเจน Q1/2565 บอสใหญ่ "ทรงวิทย์ " ลั่นปีนี้ผลงานทะยานต่อเนื่อง อานิสงส์ธุรกิจเช่า-รถมือสองฟื้นตัวเด่น แถมลุยแพลตฟอร์ม "ยูสคาร์" ตอบโจทย์โลกใหม่ หวังเชื่อม-ขยายอีโคซิสเต็มส์ให้กว้างขึ้น
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP เปิดเผยว่า จากแนวโน้มเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงในช่วงกลางเดือนเมษายน 2565 พบว่า ล่าสุดมีผู้แสดงความสนใจจองเช่ารถในช่วงต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการที่ช่วยสนับสนุนรายได้ในส่วนของธุรกิจเช่ารถระยะสั้นให้ดียิ่งขึ้น
“ปีนี้ทางภาครัฐค่อนข้างผ่อนผันเรื่องการจัดกิจกรรมและการเดินทางต่างๆ ประกอบกับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เริ่มมีความมั่นใจเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยในส่วนต่างๆ ที่มากขึ้น นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นผลดีต่อธุรกิจรถเช่าของ ASAP แทบทั้งสิ้น”
จ่อรับทรัพย์ยูสคาร์
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลสัดส่วนรายได้ของ ASAP ณ สิ้นปี 2564 แบ่งเป็น ธุรกิจให้การขายรถยนต์มือสอง (ยูสคาร์) ประมาณ 40%, ธุรกิจให้เช่ารถยนต์ทั้งในส่วนของระยะยาวและระยะสั้นอีกประมาณ 60% รวมทั้งธุรกิจยังมีแนวทางเสริมพอร์ตรถเช่าอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทมีแนวทางขายรถยนต์มือสองที่ครบกำหนดสัญญาใหม่เพิ่มเติมประมาณ 1,000 คัน ซึ่งราคาเฉลี่ยราว 500,000 บาทต่อคัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 500 ล้านบาท เพื่อเสริมรายรับของธุรกิจอีกทางหนึ่ง คาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ทั้งหมดในช่วงไตรมาส 1/2565
ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจเช่ารถยนต์เดิมของ ASAP ถือว่าปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถเช่าระยะสั้นในสนามบินและผ่านแอปพลิเคชัน หลังทางภาครัฐได้มีประกาศปลดล็อกการเดินทางและเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศให้สามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทยและธุรกิจแพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถ
ล่าสุดทาง ASAP บริษัทได้มีจัดตั้งทีมงานใหม่เพิ่มเติม รองรับพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่สำหรับ “ขายรถมือสอง” ทั้งในส่วนการประมูลผ่านออนไลน์, การซื้อขายยูสคาร์ ฯลฯ เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงและเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับยังมีการเป็นเชื่อมโยงระบบอีโคซิสเต็มส์ของธุรกิจเดิมของ ASAP ในส่วนของการขายรถยูสคาร์และเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ ไปยังลูกค้ารายย่อยเพิ่มเติม ตลอดจนเสริมธุรกิจในส่วนของประกันภัยที่บริษัทได้มีการประกาศเข้าลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทหวังว่าจะได้ความชัดเจนเรื่องดังกล่าวภายในช่วงปี 2565
ส่วนเรื่องการเข้าลงทุนในบริษัท แอท ยูไนเต็ด โบรกเกอร์ ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ซึ่งได้รับใบอนุญาตประเภทนายหน้าประกันวินาศภัยโดยตรง จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งครอบคลุมการขายประกันภัยจากบริษัทชั้นนำเกือบทั้งหมดนั้นปัจจุบันขั้นตอนต่างๆ ถือว่าคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว ซึ่งทาง ASAP ได้มีการเริ่มดำเนินการและรับรู้รายได้ตั้งแต่มกราคม 2565 ที่ผ่านมา และถือเป็นอีกแรงสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเพิ่มในปีนี้
ปีนี้ผลงานพุ่งต่อ
นายทรงวิทย์ กล่าวเสริมว่า ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่ราว 4.2 พันล้านบาท ผลมาจากธุรกิจเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและยาวเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจการขายรถยูสคาร์ผ่านช่องทางเดิมและแพลตฟอร์มใหม่เพิ่มสูงขึ้น หลังมองว่าปัจจัยเกี่ยวกับโควิด-19 น่าจะคลี่คลายในปี 2565 ประกอบกับมีการขยายแพลตฟอร์มยูสคาร์และธุรกิจประกันภัยเข้ามาเสริมด้วย