Asap ชูกลยุทธ์ Mobility Solution Driven เปิดตัวแอพพลิเคชั่น Asap App เจาะตลาด B2C ยุค New Normal

บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ “Asap” ผู้ประกอบการรถยนต์ให้เช่ารายใหญ่ในประเทศ ทั้งรถให้เช่าระยะยาวแก่องค์กร รถเช่าระยะสั้น และการให้เช่าพร้อมคนขับ ปรับแผนกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าจากการให้บริการกับลูกค้าองค์กร (B2B) เป็นหลัก สู่การให้บริการกับลูกค้ารายย่อย (B2C) ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล “Asap App” แอปพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด ที่อาศัยแนวคิด Mobility Solution Driven เพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย เชื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal พร้อมประกาศแผนรุกตลาดประกันภัย และธุรกิจขายรถมือสองแบบ Peer-to-Peer เพื่อให้ครอบคลุมการบริการกับลูกค้ารายย่อยได้กว้างมากขึ้น
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวคิด “Mobility Solution Driven” ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ได้มีการวางแผนคิดค้นพัฒนามากว่าสามปี เพื่อให้แอปพลิเคชั่นของ Asap ตอบโจทย์การเดินทางของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยรองรับการเดินทางของทั้งคน สัตว์ สิ่งของ ให้เป็นเรื่องง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว
“ทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางยังคงเกิดขึ้นเพียงแต่อยู่ในรูปแบบที่เปลี่ยนไป โดยจะเห็นได้ว่าการเดินทางในยุคนี้ต้องมีการบริหารจัดการ และการวางแผนที่ดี เพื่อช่วยผู้บริโภคจัดการเวลาได้อย่างคุ้มค่า ดังนั้น การพัฒนาโซลูชันด้านการเดินทาง (Mobility Solution) ที่รัดกุม ปลอดภัย และเชื่อถือได้จึงกลายเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งจากที่เราได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และมองเห็นความต้องการที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ จึงได้พัฒนา 7 โซลูชันขึ้นมาบนแอปพลิเคชัน Asap เพื่อให้ตอบโจทย์สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น”
ภายในแอปพลิเคชัน Asap จึงมาพร้อม 7 บริการที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย ประกอบด้วย
· – บริการรถเช่ารายวัน
· – บริการรถเช่าพร้อมคนขับ (Butler)
· – บริการรับส่งผู้สูงอายุ
· – บริการรับส่งในวันพิเศษด้วยรถหรู (ลีมูซีน)
· – บริการขนเฟอร์นิเจอร์
· – บริการรับส่งสัตว์เลี้ยง
· – บริการขับรถให้คุณ
“ในฐานะที่ Asap เป็นผู้ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรและหน่วยงานภาครัฐมากว่า 10 ปี ทำให้เรามีปัจจัยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะนำมาให้บริการแก่ลูกค้าบุคคลทั่วไปได้อย่างครบวงจร และมีมาตรฐาน ซึ่งการรุกตลาดคอนซูเมอร์ในครั้งนี้เป็นเพราะเรามองเห็นโอกาสที่จะนำบริการของเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกค้า และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะที่โควิด-19 กำลังระบาด และทำให้ผู้คนส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยระบบสาธารณะเพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของตัวเอง” นายทรงวิทย์กล่าว
สร้างระบบนิเวศน์ที่มีฐานผู้ใช้บริการหลักแสน
ด้านนางสาวพิชชาภัสสร์ ฐิติปุญญา ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ระบบนิเวศน์มีความสมบูรณ์ ทางบริษัทจึงได้มีการเปิดรับสมาชิกในชื่อ Asap club หรือคลับสำหรับให้บริการลูกค้าของ Asap โดยตั้งเป้าสมาชิกบนแพลตฟอร์มเอาไว้ 10,000 รายภายใน 14 วันนับจากเปิดให้บริการ ( เริ่มเปิดลงทะเบียน วันที่ 1 มิถุนายน 2564) รวมถึงต้องการสร้างยอดสมาชิกในคลับให้แตะ 100,000 รายภายในสิ้นปีนี้
สำหรับสิทธิพิเศษที่สมาชิกของ Asap Club จะได้รับนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อประกันภัยรถยนต์ หรือซื้อรถมือสอง (รถบ้าน) ได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม นอกจากนั้น ยังมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้า 10,000 รายแรกที่สามารถสมัครสมาชิกได้ในราคา 99 บาทจากราคาเต็ม 499 บาท และสามารถเลือกใช้ 7 บริการที่กล่าวมาข้างต้นได้ฟรีหนึ่งครั้งด้วย ทั้งนี้การเปิดรับสมาชิก Asap Club จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป และผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษ สามารถกดใช้สิทธิได้ภายใน 14 วันหลังจากชำระเงิน
ต่อยอดสู่ธุรกิจประกันภัย ขายรถมือสองแบบ P2P
นางสาวพิชชาภัสสร์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “นอกจากการให้บริการด้านการเดินทางสำหรับบุคคลสำคัญ สัตว์เลี้ยงแสนรัก หรือการเคลื่อนย้ายสิ่งของต่าง ๆ ใน Asap App แล้ว ผู้ที่เป็นสมาชิก Asap club ยังสามารถใช้บริการอื่นๆ พร้อมสิทธิพิเศษเหนือใครอีกมากที่จะตามมาในไตรมาสสามของปีนี้ อาทิ การซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ รวมถึงการซื้อขายรถยนต์มือ 2 ของผู้ที่เป็นสมาชิกผ่านแอปพลิเคชั่น Asap ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการสร้างรูปแบบ Community ของกลุ่มสมาชิกรูปแบบใหม่ ภายใต้ Asap club ซึ่งเรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มองหาความคุ้มค่าพร้อมสิทธิพิเศษที่เลือกสรรมาให้โดยเฉพาะแน่นอน”
สำหรับธุรกิจประกันภัยและธุรกิจ Used Car P2P หรือการขายรถมือสองแบบ Peer-to-Peer นั้น คุณทรงวิทย์ กล่าวเสริมว่า เป็นช่องทางใหม่ที่แตกต่างจากช่องทางปกติ เพราะผู้คนที่อยู่ในคอมมูนิตี้ไม่เพียงต้องการบริการเสริมด้านการเดินทาง หากแต่สมาชิกทุกคนก็ต้องซื้อประกันภัยรถยนต์ รวมถึงเมื่อใช้รถไปนาน ๆ วันหนึ่งรถที่สมาชิกมีก็ต้องเก่าลงและมองหาผู้ที่จะส่งมอบต่อ ซึ่งทั้งการขายประกันภัยสามารถอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งบริการ Used Car P2P จะมาตอบโจทย์ในจุดนี้ เพื่อให้ทั้งให้ผู้ซื้อ-ผู้ขายสามารถซื้อขายรถในราคาที่ตนเองพอใจได้มากขึ้น และมั่นใจได้ว่า เป็นรถบ้านแท้ เนื่องจากสามารถรู้จักตัวตนของผู้ขายได้จากแพลตฟอร์ม
ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งสองธุรกิจยังเป็นการปรับกลยุทธ์เพื่อ TurnAround ธุรกิจของ Asap หลังจาก Covid-19 ผ่านพ้นไปด้วย โดยนายทรงวิทย์ ได้กล่าวว่า
“สัดส่วนรายได้ของ Asap ในปัจจุบัน 70% มาจากบริการรถเช่าระยะยาว 10% มาจากบริการรถเช่าระยะสั้น และอีก 20% มาจากรายได้จากการขายรถยนต์มือสอง ขณะที่ แผนการ Turnaround ของเราคือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยสร้างแพลตฟอร์ม ซึ่งหลังจากเราใช้เวลาในการพัฒนาแพลตฟอร์มมาตลอด 2 ปี วันนี้เรามีแอปพลิเคชัน Asap ที่เรามั่นใจว่ามีความพร้อมอย่างสูงในการตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกด้าน ทั้งการบริหารจัดการข้อมูล การเชื่อมต่อระบบเทเลเมติกส์ ระบบการชำระเงิน การเชื่อมกับระบบหลังบ้าน จึงมั่นใจว่าจะสามารถให้บริการลูกค้าทั้งในระดับคอนซูเมอร์ และลูกค้าองค์กรภายใต้ความต้องการที่เปลี่ยนไปในยุค New Normal ได้อย่างแน่นอน” คุณทรงวิทย์ กล่าวปิดท้าย
Tag
บทความน่าสนใจอื่นๆ
