WHAตุนที่รอขาย5-6พันไร่ ต่างชาติแห่ลงทุนรถยนต์อีวี
WHA ค่ายรถอีวีแห่ลงทุนไทย ด้าน WHA โอกาสรับอานิสงส์ ดีลขายที่ให้ลูกค้าหลายราย ขนาดตั้งแต่ 200 ไร่ ถึง ระดับ 500 ไร่ มั่นไทยเป็นฮับอีวี หลังรัฐบาลเดินหน้าหนุน ตุนที่ดินรอการขายกว่า 5-6 พันไร่ โบรกมองกลุ่มนิคมได้แรงหนุนจากการลงทุนของต่างชาติ เคาะกำไรปีนี้ 3.86 พันล้านบาท ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า“GAC AION” ยักษ์ใหญ่ “รถยนต์ EV” Top 3 จากจีน ให้ความสนใจจะเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์อีวีในประเทศไทย และมีแนวคิด การหาผู้ร่วมลงทุน โดยในการลงทุนจะเป็น GAC AION ถือครองสัดส่วนในจำนวนที่มากกว่า และตั้งเป้าผลิตรถยนต์ EV ในไทยให้ได้ 100,000 คันต่อปี นอกจากการตั้งโรงงานการผลิตรถยนต์ EV แล้ว ยังขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการผลิตแบตเตอรีด้วย ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนในประเทศไทยของ GAC AION เบื้องต้น อยู่ที่ประมาณ 1,300 ล้านหยวน หรือประมาณ 6,400 ล้านบาท
โอกาสทองขายที่
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย หลายราย และมีบางรายที่ได้เซ็น หนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) กับบริษัทเรียบร้อยแล้วจะตามด้วยกระบวนการทำสัญญาซื้อขาย และโอนที่ดินให้แก่ลูกค้าต่อไป ทั้งนี้นักลงทุนที่สนใจเข้ามาซื้อที่ดินลงทุนมีตั้งแต่ขนาดที่ดิน 200 ไร่ หรือบางรายกว่า 500 ไร่ ซึ่งบริษัทมีที่ดินในมือพร้อมขายกว่า 5-6 พันไร่ ดังนั้นเชื่อว่าจะสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ
“ตอนนี้มีนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเพราะกลุ่มอีวีที่ที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะมองเห็นโอกาสและศักยภาพ ที่ประเทศไทยจะเดินหน้าไปสู่การเป็นศูนย์กลางรถอีวี (ฮับอีวี) ได้ และคาดว่าจะทยอยเห็นความชัดเจนมากขึ้น เป็นผลมาจากการที่ภาครัฐเดินหน้าสนับสนุนทั้งการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการสนับสนุนผู้ผลิต อย่างเรื่องแบตเตอรี ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานของไทยมีความเสถียรภาพ ปริมาณไฟฟ้าเพียงพอ จึงเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในไทย “นางสาวจรีพร กล่าว
ส่วนการเลือกตั้งที่จะถึง มองว่าจะไม่กระทบต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศ เพราะไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใด ก็ต้องมีการผลักดันเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานการลงทุน จึงไม่ต้องกังวล และคาดหวังให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่มีความแข็งแกร่ง เพื่อที่จะผลักดันการลงทุนของไทย รวมไปถึงการดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยด้วย
อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ที่ 1,750 ไร่ ทั้งในไทยและเวียดนาม และยังคงแผนการลงทุนภายใน 5 ปี (2566-2570) ไว้ที่ 6.85 หมื่นล้านบาท ได้แก่ ธุรกิจโลจิสติกส์ จำนวน 1.7 หมื่นล้านบาท ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม (ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์) จำนวน 2.9 หมื่นล้านบาท ธุรกิจสาธารณูปโภคน้ำ-ไฟฟ้า (WHAUP) จำนวน 1.85 หมื่นล้านบาท และธุรกิจดิจิทัล (ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล)จำนวน 4,000 ล้านบาท
เคาะกำไร3.86 พันล.
บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่าทางฝ่ายวิจัยได้ประเมินราคาขายที่ดินเฉลี่ยต่อไร่ของ WHA เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน หนุนอัตรากำไรขั้นต้นปี 2566 ให้ขยับขึ้นมาที่ 49.4% เทียบกับปี 2565 ที่ 44.7% แม้ฐานรายได้ปี 2565 จะสูงแต่ประเมิน EBITDA ปี 2566 โต +9.7%YoY ที่ 6.8 พันล้านบาท โดย Sentiment กลุ่มนิคมได้แรงหนุนจากการลงทุนของต่างชาติ ประเมินมูลค่าการลงทุนปี 2566 จะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน (Fully Reopen) จากกลุ่ม EV โตเด่น
สำหรับปี 2565 ที่ผ่านมา FDI ทั้งปีมีมูลค่ารวม 4.34 แสนล้านบาท เติบโต 36% จากปีก่อน อย่างไรก็ดี ประเมินกำไรสุทธิปี 2566- 2567 ที่ 3.86 พันล้านบาท และ 4.49 พันล้านบาท +5.5%YoY และ +16.3%YoY ตามลำดับ โดยฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 4.40 บาทต่อหุ้น