ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแนวทางจัดการเลือกตั้งพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด

แนวทางจัดการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา
วันนี้ 26 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่อง แนวทางดำเนินการการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่มีสถานการณ์ ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา
โดยที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2568 และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้กําหนดให้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เกิดสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา อันส่งผลกระทบต่อการดําเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 22 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ประกอบมาตรา 5 มาตรา 30 มาตรา 33 และมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผ้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
คณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงมีมติให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งและผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งในจังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ดําเนินการจัดการเลือกตั้ง ดังต่อไปนี้
1.การปิดประกาศ หรือระเบียบตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อได้ปิดประกาศ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่ที่ประชาชนสะดวกในการตรวจสอบแล้ว ให้ดำเนินการประกาศ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการอื่นใดที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวกด้วย หากไม่สามารถปิดประกาศ ณ ที่เลือกตั้งหรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่ที่ประชาชนสะดวก ในการตรวจสอบได้ ให้ถือว่าการประกาศในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการอื่นใด เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
2. กรณีจัดส่งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทะเบียนบ้านพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ไปยังเจ้าบ้านในเบื้องต้น ให้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่สามารถจัดส่งได้ ให้รายงานให้กกต. ทราบและให้เก็บรักษาเอกสารดังกล่าวไว้ในที่ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดลง แล้วจึงจัดส่งเอกสารดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
3. จัดให้มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในศูนย์อพยพลงทะเบียน ขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง ภายในระยะเวลา ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวัน และเวลายื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียง ลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง โดยขอความร่วมมือให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนน ก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้งที่มีความปลอดภัยและอยู่ใกล้เคียงกับเขตเลือกตั้ง ที่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบ และในวันออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งให้ประสานหน่วยงานของรัฐ จัดพาหนะรับส่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง นอกเขตเลือกตั้งดังกล่าวด้วย
4. การจัดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้งที่อยู่ในเขตเลือกตั้ง หากยังมีสถานการณ์ความไม่สงบ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งพิจารณาเปลี่ยนแปลงเขตของหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งสามารถเดินทางได้สะดวกและปลอดภัย โดยหน่วยเลือกตั้ง และที่เลือกตั้งดังกล่าวต้องอยู่ในเขตเลือกตั้ง ตามมาตรา 30 วรรคสาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561และที่แก้ไขเพิ่มเติม
5. ภายใน 7วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ให้ประสานนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือผู้มีสิทธิเลือกตั้งในศูนย์อพยพที่ไม่ได้ ไปใช้สิทธิเลือกตั้งลงทะเบียนแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย
คลิกอ่าน ราชกิจจานุเบกษา แนวทางดำเนินการการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่มีสถานการณ์ ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
