พันธมิตรซาอุดีอาระเบียโจมตีท่าเรือเยเมน ตอบโต้ UAE ส่งอาวุธให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดน

พบควันดำพวยพุ่งขึ้นหลังกองทัพอากาศของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียเปิดการโจมตีทางอากาศต่อท่าเรือมูคัลลา ทางตอนใต้ของเยเมนเมื่อวานนี้ (30 ธันวาคม) สืบเนื่องจากที่ซาอุดีอาระเบียระบุว่ามีการขนส่งอาวุธจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มาเพื่อส่งให้กับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนในเยเมนโดยซาอุดีอาระเบียยังได้เตือนว่าการกระทำดังกล่าวของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นับว่าเป็น “อันตราย” อย่างยิ่ง
ซาอุดีอาระเบียระบุด้วยว่าเรือบรรทุกอาวุธได้เดินทางมาจากเมืองฟูไจราห์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยมีจุดหมายที่ท่าเรือแห่งนี้ โดยสื่อท้องถิ่นของซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่าเรือลำดังกล่าวได้ปิดใช้งานอุปกรณ์ติดตามตำแหน่งเพื่อขนถ่ายอาวุธและยานพาหนะทางทหารจำนวนมากและหลังการโจมตียังไม่ชัดเจนว่ามีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีนี้หรือไม่ แต่ซาอุดีอาระเบียยืนยันว่าการส่งอาวุธจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ละเมิดความมั่นคงของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นเส้นแดงที่ไม่อาจละเมิดได้ โดยหลังการโจมตีไม่นาน ซาอุดีอาระเบียยังเรียกร้องให้กองกำลังของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถอนกำลังออกจากเยเมนภายใน 24 ชั่วโมง
ส่วนทางฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ออกมาเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียใช้ความยับยั้งชั่งใจในระดับสูงสุดพร้อมกล่าวว่ารู้สึกผิดหวังต่อแถลงการณ์ของซาอุดีอาระเบียและรู้สึกประหลาดใจกับการโจมตีทางอากาศที่เมืองมูคัลลา อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ออกแถลงการณ์ว่าจะถอนทหารที่เหลืออยู่ในเยเมนออกทั้งหมด รวมถึงได้ยุติภารกิจของหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายในเยเมนโดยสมัครใจ ซึ่งเป็นกองกำลังชุดสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในประเทศ หลังการประจำการทางทหารของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเยเมนสิ้นสุดลงตั้งแต่ปี 2019
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน ภายหลังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดแต่ยังคงไม่ชัดเจนว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้การสนับสนุนจะยอมคืนดินแดนที่เพิ่งยึดมาได้หรือไม่
ทั้งนี้ รอยเตอร์สรายงานว่าการโจมตีดังกล่าวถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดครั้งสำคัญที่สุดระหว่างซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ท่ามกลางรอยร้าวที่ขยายตัวมากขึ้นระหว่าง 2 ประเทศที่ร่ำรวยแถบอ่าวอาหรับ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
