สหรัฐฯ เสี่ยงสถานการณ์โควิด-19 แย่ลง หลังรัฐท้องถิ่นผ่อนมาตรการคุมเข้ม
วอชิงตัน, 2 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (1 มี.ค.) โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) กล่าวเตือนว่าสหรัฐฯ เสี่ยงทำให้สถานการณ์การต่อสู้กับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมาย่ำแย่ลง หากรัฐต่างๆ ผ่อนปรนมาตรการทางสาธารณสุข
"ฉันรู้สึกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับรายงานที่ว่าหลายรัฐกำลังผ่อนปรนมาตรการสาธารณสุขที่เราแนะนำให้บังคับใช้เพื่อปกป้องประชาชนจากโรคโควิด-19" วาเลนสกีกล่าว พร้อมเสริมว่าขณะที่ยอดผู้ป่วยอยู่ในระดับสูงและเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ กำลังแพร่ระบาด สถานการณ์อาจกลับไปย่ำแย่อีกครั้ง
หลังจากยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ ลดลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจุบันยอดผู้ป่วยใหม่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยตัวเลขของสัปดาห์ก่อนสูงกว่าของสัปดาห์ก่อนหน้าราวร้อยละ 2 และยอดผู้ป่วยเสียชีวิตเฉลี่ยรายสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 2 อยู่ที่เกือบ 2,000 รายต่อวัน
วาเลนสกีเรียกร้องประชาชนสวมหน้ากากอนามัยที่กระชับรับกับใบหน้าและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขต่อไป
"สิ่งสำคัญมากคือเรายังต้องระมัดระวังตัวและดำเนินทุกมาตรการบรรเทาสถานการณ์ที่เรารู้ดีว่าช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาด ขณะเราเดินหน้าฉีดวัคซีนขนานใหญ่"
มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ รายงานว่าสหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมสูงเกิน 28.6 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิตกว่า 513,900 ราย เมื่อนับถึงบ่ายวันจันทร์ (1 มี.ค.)