รีเซต

ดีอีเอส พบ 7 เดือนมีข่าวปลอม 20 ล้านข่าว ชี้ 70% เกี่ยวกับสุขภาพ

ดีอีเอส พบ 7 เดือนมีข่าวปลอม 20 ล้านข่าว ชี้ 70% เกี่ยวกับสุขภาพ
TNN ช่อง16
17 กันยายน 2563 ( 12:56 )
611
ดีอีเอส พบ 7 เดือนมีข่าวปลอม 20 ล้านข่าว ชี้ 70% เกี่ยวกับสุขภาพ

วันนี้ (17 ก.ย.63) เครือข่ายผู้ประสานงานตรวจสอบข่าวปลอมของส่วนราชการในทุกกระทรวง ร่วมเข้าอบรมเชิงปฏิบัติการกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เพื่อรับทราบและติดตามผลการใช้งานระบบสำหรับผู้ประสานงานการตรวจสอบข่าวปลอม หลังจากศูนย์นี้เปิดให้มีเครือข่ายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว

นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดีอีเอส เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเครือข่ายของส่วนราชการเข้าร่วมการตรวจสอบข่าวปลอมแล้ว 151 ส่วนราชการ โดยหากมีการเผยแพร่ข่าวที่อยู่ในความสนใจของประชาชนผ่านทางอินเตอร์เน็ต ทางกระทรวงดีอีเอส มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง และต้องสงสัยว่าเป็นข่าวปลอมก็จะส่งให้ผู้ประสานงานแต่ละกระทรวงตรวจสอบ และจะตอบกลับมาเพื่อยืนยันภายใน 2 ชั่วโมง

ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาทางศูนย์ฯ ได้ตรวจสอบข้อความที่เข้าข่ายเป็นข่าวปลอมมาแล้วกว่า 20 ล้านข่าว และเข้าข่ายส่งตรวจสอบ 5,000 ข่าว และมีอีกกว่า 1,000 ข่าวยังรอผลการตรวจสอบยืนยัน

ส่วนประเภทของข่าวที่พบว่า มีการปลอมมากที่สุด คือ ข่าวที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ถึงร้อยละ 70 รองลงมา คือ ข่าวเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ ร้อยละ 20 และ ข่าวเศรษฐกิจ และภัยพิบัติ ประมาณร้อยละ 10

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการหลังจากที่มีเครือข่ายผู้ประสานงานของแต่ละส่วนราชการแล้ว ก็จะทำให้การตรวจสอบข่าวสารต่างๆ หรือเนื้อหาไม่เหมาะสมที่เผยแพร่ในระบบอินเตอร์เน็ตมากขึ้นในปัจจุบัน เป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น อีกทั้งจะช่วยลดความตื่นตระหนกของประชาชนหากได้พบเจอข่าวปลอมดังกล่าว

และหากข่าวปลอมสร้างผลเสียกับส่วนราชการใด ก็สามารถมาร้องทุกข์กับตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้โพสต์ข้อความต่างๆ ได้ พร้อมยืนยันว่าทางกระทรวงดีอีเอส ได้มีการประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบหาบุคคลที่โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จและสามารถดำเนินคดีกับบุคคลที่สร้างข่าวปลอมได้


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง