เปิดผลชันสูตรสาเหตุการตายพะยูนกลางทะเลกระบี่

วันที่ 19 มกราคม 2564 เวลา 11.30 นาฬิกา ตามที่นายทีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่ ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวว่า พบพะยูนลอยตายทางด้านทิศเหนือและทางทิศตะวันออกของเกาะเหลากา บริเวณหมู่เกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี บ้านท่าเลน หมู่ที่ 3 ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่จึงสั่งให้หน่วยพิทักษ์อุทยานประจำเกาะห้อง นำกำลังพร้อมเรือตรวจการณ์ออกตรวจค้นหาซากพะยูนที่ลอยตายจนพบ สภาพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น ลำไส้ทะลักออกมาที่หน้าท้อง คาดว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ไม่ทราบเพศ และวัดความยาวจากหัวจรดหาง 3.10 เมตร น้ำหนักประมาณ  500 - 600 กิโลกรัม รอบลำตัวกว้าง 110 เซนติเมตร แล้วนำซากพะยูนมาขึ้นที่ชายหาด

บ้านเกาะกวาง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนล่าง จังหวัดตรัง นำไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายต่อไป 

ซึ่งการตายของพะยูนวันที่ 16 – 17 มกราคม 2564 ในเดือนแรกของปี 2564 กลางทะเลจังหวัดกระบี่รวม 3 ตัว ตัวแรกบริเวณเกาะปาไล บ้านท่าเลน ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ ตัวที่สองบริเวณระหว่างเกาะนุ้ย และเกาะปอ บ้านเกาะปอ ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา และตัวที่สามบริเวณเกาะเหลากา หมู่เกาะห้อง บ้านท่าเลน ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ซึ่งการตายของพะยูนสร้างความสงสัยแก่ชาวประมงพื้นบ้านชายฝั่งในพื้นที่  อำเภอเมืองกระบี่ อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม อำเภอเกาะลันตา และอำเภออ่าวลึก เพียง และนักอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เป็นอย่างมากว่าได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุ เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและร่วมกันอนุรักษ์พะยูนต่อไปนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนล่าง จังหวัดตรัง ได้ทำการผ่าชันสูตรพะยูนตัวดงกล่าวแล้ว ผลตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าเป็นพะยูนเพศเมีย ความยาวลำตัว 3 เมตร อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ สภาพซากเน่ามีรอยเขี้ยวจากพะยูนซึ่งเกิดจากพฤติกรรมภายในฝูง ไม่มีรอยแผลอื่นภายนอกลำตัว เขี้ยวทั้ง 2 ข้างยังอยู่ครบ ส่วนของทางเดินอาหารทะลักออกมาภายนอกลำตัว เมื่อเปิดผ่าชันสูตรซากพบว่าอวัยวะภายในส่วนใหญ่เน่าสลายไม่สามารถระบุโรคได้ชัดเจน ส่วนของทางเดินอาหารบวมอืดภายในกระเพาะอาหารพบหญ้าใบมะกรูดอัดแน่นเต็มกระเพาะอาหาร ไม่พบสิ่งแปลกปลอมภายในทางเดินอาหาร 

ซึ่งสาเหตุการตายไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากสภาพซากเน่ามากไม่สามารถระบุรอยโรคใดๆได้ คาดว่าตายจากการป่วยตามธรรมชาติ เนื่องจากไม่พบรอยบาดแผลภายนอกลำตัว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนล่าง จังหวัดตรัง ได้เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อและโครงกระดูกเพื่อศึกษาทางห้องปฏิบัติการต่อไป

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE