รีเซต

นราธิวาส! ผู้ติดเชื้อโควิดอายุ 80 ปี เสียชีวิตแล้ว

นราธิวาส! ผู้ติดเชื้อโควิดอายุ 80 ปี เสียชีวิตแล้ว
TNN ช่อง16
1 มิถุนายน 2563 ( 15:40 )
75
นราธิวาส! ผู้ติดเชื้อโควิดอายุ 80 ปี เสียชีวิตแล้ว

 

วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  จากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน EOC โควิด -19 จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดชายชรา อายุ 80 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส และเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากไปร่วมชุมนุมเผยแพร่ศาสนาที่มัสยิดซือรีปือตาลิง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยพบว่าชายชราดังกล่าวนี้มีอาการปอดบวมขั้นปานกลาง จากการติดเชื้อไวรัสโควิด -19 โดยเป็นผู้ป่วยรายที่ 36 และเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ก่อนส่งรักษาต่อที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ล่าสุดได้เสียชีวิตแล้ว ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19  ของ จ.นราธิวาส ล่าสุดรวม 2 ราย 

 

โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้เสียชีวิตรายนี้ คือรายที่ 37,38 ,39 และรายที่ 40 ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตรายล่าสุดยังคงนอนรักษาตัวที่ รพ.สนามคือ รพ.กัลยาณิวัฒนาการุณย์ จ.นราธิวาส ทั้งนี้ผู้ป่วยรายที่ 38 ซึ่งเป็นสามีของลูกสาวผู้เสียชีวิต ล่าสุดได้รับการยืนยันจากศูนย์ EOC จ.นราธิวาสว่า ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 แล้ว ส่วนรายที่ 37,39 และ 40 ซึ่งเป็นลูกสาว หลานและคนเลี้ยงหลานของผู้เสียชีวิต อาการโดยรวมไม่หนักมาก 

             

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ถูกกักตัวที่ศูนย์กักกัน ( Local Quarantine) ภายในสนามกีฬาการกีฬาและการท่องเที่ยว จ.นราธิวาส ให้เข้มงวดกับนักศึกษาที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และถูกกักตัวอยู่ที่ศูนย์ดังกล่าวจำนวน 11 คน ซึ่งรับแจ้งว่ามักจะไปรวมตัวกันเพื่อประกอบศาสนกิจและพูดคุยกันในห้องใดห้องหนึ่ง ซึ่งทาง จ.นราธิวาสเกรงว่าหากนักศึกษาทั้งหมดนี้ไม่มีวินัย ไปรวมตัวกันบ่อยครั้งจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้หากคนใดคนหนึ่งตรวจพบเชื้อขึ้นมา 

            

อย่างไรก็ตามจากมาตรการปลดล็อคระยะที่ 3 ของรัฐบาล ที่ปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศในวันนี้ (1 มิ

ย.63) ทั้งการเดินทางเข้า-ออกในจังหวัดต่างๆได้ตามปกติโดยไม่ต้องทำหนังสือรวมทั้งการปลดล็อคกิจการอีกหลายกิจการ เช่น ฟิตเนส เป็นต้น ทาง จ.นราธิวาสโดยนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาสได้สั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 13 อำเภอรวมทั้งหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ควบคุมดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมทั้งยังต้องสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกรณีเข้าไปใช้บริการตามร้านค้าสถานประกอบการต่างๆอย่างเคร่งครัด หากทุกคนไม่ปฏิบัติตามวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) เชื่อว่าการแพ่ร่ระบาดระลอกที่ 2 จะกลับมาและสถานการณ์จะรุนแรงกว่าเดิม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง