Apple พิจารณาย้ายฐานผลิต iPhone บางส่วนไปประเทศอินเดีย

แอปเปิล (Apple) กำลังพิจารณาแนวทางในการนำเข้าโทรศัพท์มือถือ iPhone จากประเทศอินเดียในปริมาณที่มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในอัตราสูงถึงร้อยละ 125 สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งประกาศโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ระยะสั้นของบริษัทแอปเปิล ในขณะที่บริษัทฯ ดำเนินการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อขอรับการยกเว้นภาษี เนื่องจากในปัจจุบัน บริษัท แอปเปิลยังไม่มีความต้องการจะปรับเปลี่ยนการลงทุนด้านโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ในประเทศจีน
เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราภาษีใหม่ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราร้อยละ 125 และการชะลอมาตรการเก็บภาษีกับประเทศอื่น ๆ ออกไป 90 วัน คาดการณ์ว่าต้นทุนการนำเข้าสมาร์ตโฟน iPhone 16 Pro ซึ่งเดิมอยู่ที่ประมาณ 550 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 18,425 บาทอาจเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10,050 บาท (ราคานี้ไม่รวมราคาเครื่องสมาร์ตโฟน iPhone)
ทางด้านของสำนักข่าว WallStreet Journal โดยแวมซี่ โมฮัน (Wamsi Mohan) นักวิเคราะห์จากธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America) ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่าแอปเปิลมีแนวโน้มที่จะผลิตสมาร์ตโฟน iPhone ในประเทศอินเดียจำนวน 25 ล้านเครื่องภายในปีนี้ โดยมีจำนวน 10 ล้านเครื่องที่ผลิตขึ้นเพื่อรองรับตลาดภายในประเทศอินเดียเอง นอกจากนี้แวมซี่ โมฮัน (Wamsi Mohan) กล่าวเพิ่มเติมว่า หากแอปเปิลตัดสินใจที่จะนำเข้า iPhone ทั้งหมดจำนวน 25 ล้านเครื่องไปยังสหรัฐอเมริกา ก็จะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในสหรัฐอเมริกาได้ประมาณร้อยละ 50
การพิจารณาดังกล่าวของแอปเปิล สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของบริษัทฯ ต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน รวมไปถึงความพยายามในการแสวงหาทางเลือกอื่น ๆ เพื่อลดผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงาน และราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบริษัท