ชาว ต.ศรีบุญเรือง รวมตัวร้องสื่อ หลังทำหนังสือขอซ่อมถนนด้วยงบท้องถิ่น แต่ชลประทานเจ้าของพท.ไม่อนุญาต
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 9 ก.พ.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณถนนบนอ่างเก็บน้ำหนองกองแก้ว ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น มีชาวบ้านกว่า 50 คน ได้มารวมตัวกันร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ผ่านไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานโครงการชลประทานขอนแก่น รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนกว่า 700 หลังคาเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของถนนขาดจากการเกิดอุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมา
นายธวัชชัย ทิทา ครูโรงเรียนบ้านวังเวินกุดหล่ม กล่าวว่า ในช่วงเกิดอุทกภัยในปีที่ผ่านมา ถนนเส้นนี้ได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วมขังมา ร่วม 2 เดือน แต่พอน้ำแห้งถนนก็ยังไม่ได้รับการซ่อมแซมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก ที่ผ่านมาแม้น้ำท่วมหรือ ฝนจะตกครูก็ต้องมาโรงเรียน มาเตรียมการเรียนการสอน ซึ่งขณะนี้โรงเรียนได้เปิดทำการเรียนการสอนแล้ว 2 แห่ง โรงเรียนบ้านวังเวินกุดหล่ม และโรงเรียนบ้านท่าม่วง จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาดูมาแก้ไขความเดือดร้อนให้ด้วย
ด้านนายปัญญา ชลไพร ผู้ใหญ่บ้าน บ.กุดหล่ม กล่าวว่า เมื่อน้ำลดถนนขาด ไม่มีการซ่อมแซมใดๆ และดูเหมือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะโยนกันไปมา และถ้าอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานโครงการชลประทานขอนแก่น ก็อยากทราบว่า มีการลงพื้นที่มาดูความเดือดร้อนของชาวบ้านบ้างหรือยัง จะได้เห็นว่าชาวบ้ายนเดือดร้อนจริงๆ ชาวลบ้านขี่รถจักรยานยนต์ก็ล้มบาดเจ็บ ขับรถยนต์ก็ตกถนน เพราะถนนยังไม่ได้มีการซ่อมแซม จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ช่วยตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยว่ามีการเตรียมที่จะซ่อมแซมถนนหรือจัดสรรงบประมาลงในพื้นที่ตำบลศรีบุญเรืองหรือยัง
ขณะที่นายวรโชติ กล่อมจิต ปลัด อบต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ถนนสายดังกล่าว เป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนในพื้นที่ 6 หมู่บ้านเกือบ 700 หลังคาเรือน ต้องสัญจรไปมา โดยช่วงหน้าฝนปี 2564 ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมหนัก ถนนหนทางในพื้นที่ ถูกน้ำกัดเซาะและท่วมขังในช่วงเดือนกันยายน และเดือนตุลาคม เป็นเวลา 52 วัน ถนนบริเวณสันเขื่อนชลประทานหนองกองแก้ว ก็ถูกน้ำกัดเซาะถนนขาดทั้งหมด 4 จุดๆละประมาน 15-20 เมตร ขณะนั้นชาวบ้านในพื้นที่ต้องสัญจรไปมาด้วยเรือที่ทางอบต.ศรีบุญเรืองจัดให้ และเมื่อน้ำลดก็ไม่สามารรถสัญจรไปมาได้ และอบต.ศรีบุญเรืองก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้ เนื่องจากถนนบริเวณสันเขื่อนชลประทานหนองกองแก้วนั้น เป็นถนนบนสันเขื่อนที่ชลประทานให้ประชาชนใช้สัญจรไปมา เมื่อเกิดทรุดหรือพังเสียหาย ชลประทานจะต้องดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซม เพื่อบรรเทาความเดือดให้ประชาชน
” อบต.ได้ทำหนังสือรายงานไปยังนายอำเภอ และทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานชลประทานจังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม ถนนขาด รวมถึงน้ำแห้งก็รายงาน เพื่อขอความอนุเคราะห์ซ่อมแซม และเมื่อมีประชาชนในพื้นที่เอาดินมาถมถนนและนำรถมาเกรดดิน อบต.ก็จะรายงานให้สำนักงานชลประทานจังหวัดขอนแก่น ในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านของแต่ละหมู่บ้านได้ทำหนังสือมาถึง อบต.เพื่อให้ซ่อมแซมถนนขาด เพราะหลังจากน้ำแห้ง ประชาชนที่ต้องเดินทางไปทำงานนอกบ้านก็จะใช้ถนนสายนี้เป็นหลัก แต่ก็ต้องสัญจรไปมาด้วยความลำบาก และสำนักงานโครงการชลประทานขอนแก่นก็ไม่ได้มาให้ความใส่ใจที่จะซ่อมแซมถนนสายดังกล่าว เมื่ออบต.ขอซ่อมแซมก็ไม่ให้ซ่อม บอกเพียงว่าสำนักงานโครงการชลประทานขอนแก่น จะมาซ่อมเอง อบต.ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะติดขัดในเรื่องขอบเขตความรับผิดชอบ แม้มีงบประมาณไม่มาก แต่ อบต.ก็พอจะซ่อมแซม บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้จึงปล่อยมาจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีรถบรรทุกดินของสำนักงานโครงการชลประทานขอนแก่น จำนวน 3 คัน นำดินมาเทใส่ถนนที่ขาด พร้อมทั้งมีหนังสือจากสำนักงานโครงการชลประทานขอนแก่นว่า โครงการชลประทานขอนแก่นได้เข้าดำเนินการซ่อมแซมคันทำนบดินอ่างเก็บน้ำหนองกองแก้วให้สัญจรไปมาได้ชั่วคราวแล้ว และจัดเข้าแผนงาน โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายใต้กรอบวงเงิน 170,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบเงินกู้ โควิด- 19 ของกรมชลประทาน โดยในวงเงินดังกล่าวจะจัดสรรมาซ่อมถนนที่ขาดในพื้นที่ อบต.ศรีบุญเรืองจำนวน 36 ล้านบาท”
ด้าน นายยุทธนา กองถวิล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานขอนแก่น กล่าวถึงกรณีปัญหาของถนนพัง ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น สัญจรไปมาลำบากว่า โครงการชลประทานขอนแก่น ทราบดีว่าประชาชนเดือดร้อน แต่โครงการชลประทานขอนแก่น ยังไม่มีงบประมาณ จึงทำได้เพียงขอสนับสนุนเครื่องจักรจาก ชลประทานที่6 ขอนแก่น ในการขุดเอาดินที่อยู่ริมถนนมาถมในจุดที่ถนนขาดพังเสียหาย ให้ประชาชนได้ใช้สัญจรเป็นการชั่วคราวไปก่อน
“ขณะนี้โครงการชลประทานขอนแก่น ได้ของบประมาณจำนวน 6 ล้านบาท เพื่อนำมาซ่อมถนนสายทางดังกล่าว ในระยะทาง 9 กม.ให้ถนนดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติมา จึงยังไม่ได้ทำ ซึ่งเมื่อได้รับการอนุมัติก็จะดำเนินการซ่อมแซมถนนให้ดีขึ้นภายในเวลา 120 วัน ส่วนในระยะยาวนั้นโครงการชลประทานขอนแก่น ได้ของบกลางมาทำถนนในสายทางดังกล่าว เป็น คสล.ที่สูงขึ้นกว่าเดิมและกว้าง 6 เมตร จะทำให้การสัญจรไปมาสะดวก และสามารถเก็บกักน้ำได้ด้วย”
ขณะที่ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีความเดือดร้อนของชาวบ้านที่สัญจรไปมาบนเส้นทางดังกล่าว และว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ทำการซ่อมแซมนั้น ในจุดนี้เชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยพาะโครงการชลประทานขอนแก่น คงจะได้ทำการซ่อมแซมถนนให้ประชาชนได้ใช้สัญจรไปมาได้ แต่คงไม่ได้สมบูรณ์100% เพราะการทำถนนหรือซ่อมถนนให้เสร็จสมบูรณ์นั้น ต้องใช้งบประมาณ และต้องใช้เวลา จึงอยากให้ทุกฝ่าย เข้าไปพูดคุย ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ให้ทราบถึงข้อเท็จจริงทั้งหมดโดยเร็ว