SPAรับเต็มเปิดประเทศ ต่างชาติเข้าดันยอดฟื้น
ทันหุ้น – SPA โหนกระแสนายกฯ กดปุ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย.นี้ เชื่อดันยอดใช้บริการสปาฟื้น พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจไทยกลับคึกคักอีกครั้ง บิ๊กบอส “วิบูลย์ อุตสาหจิต” พร้อมให้บริการเต็มสูบ ระบุผู้เข้าบริการสุดสัปดาห์ล้น 90% จับตาธุรกิจโค้งท้ายพีค ไฮซีซันหนุน
นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA เปิดเผยว่า จากการประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ บริษัทมองว่าเป็นผลบวกต่อธุรกิจท่องเที่ยว และจะส่งผลต่อธุรกิจ SPA เนื่องจากลูกค้าหลักคือนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่วนจะมียอดใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไรนั้น บริษัทขอดูยอดจองก่อนว่าจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าการเปิดประเทศครั้งนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และธุรกิจท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
พร้อมเปิดให้บริการ
ขณะที่มาตรการการให้บริการ บริษัทจะยึดมั่นตามนโยบายที่ก่อนหน้านี้ โดยจะตรวจ ATK ทางน้ำลายให้กับพนักงานทุกคนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบระหว่างให้บริการ ขณะที่ลูกค้าหรือผู้เข้าใช้บริการหากใช้บริการของ Let's Relax หรือมีค่าใช้บริการเกิน 1 พันบาทขึ้นไป บริษัทจะตรวจ ATK ให้ฟรี ส่วนการใช้บริการออนเซ็นบริษัทก็ตรวจ ATK เช่นเดียวกัน ส่วนการใช้บริการที่มียอดใช้จ่ายต่ำกว่า 1 พันบาท บริษัทอาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจก่อนใช้บริการที่ 100 บาท
ขณะเดียวกันหลังจากที่ภาครัฐประกาศผ่อนคลายธุรกิจเพิ่มเติม โดยสปาคือหนึ่งในธุรกิจที่ประกาศเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ยอดเข้าใช้บริการขยับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการให้บริการสุดสัปดาห์ ซึ่งมียอดเข้าใช้บริการเกือบ 90% ส่วนวันธรรมดายอดใช้บริการอาจไม่มาก เพราะปัจจุบันในประเทศยังประกาศใช้กฎเคอร์ฟิว หรือห้ามออกนอกเคหสถานหลัง 22.00 น.ทำให้ผู้บริโภคไม่เดินทางมาใช้บริการในรอบช่วงเย็น
ดันผลงานโค้งท้ายพีค
สำหรับการเปิดบริการปัจจุบัน บริษัทเปิดให้บริการแล้วราว 75-80% จากสาขาในประเทศทั้งหมด 65 สาขา เพราะบางสาขาที่ตั้งอยู่ในโรงแรมยังไม่เปิดให้บริการ เนื่องจากอัตราเข้าพักต่ำ จึงทำให้บางสาขายังไม่สามารถเปิดให้บริการได้
หากการเปิดประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดี คาดจะสนับสนุนธุรกิจ SPA ไตรมาส 4/2564 ให้กลับมาฟื้นตัวได้ชัดเจน เพราะปกติไตรมาส 4 เป็นไฮซีซันท่องเที่ยว และหากได้แรงหนุนการเปิดประเทศ คาดจะช่วยหนุนธุรกิจ SPA กลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินทิศทางธุรกิจสปา ยังอิงกับการท่องเที่ยว และเรื่องสุขภาพ แม้ว่าปัจจุบันการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง แต่ ณ ปัจจุบันธุรกิจสปามีแนวโน้มทิศทางที่ดี ดังนั้นมองว่าในอนาคตหากท่องเที่ยวฟื้นตัว ธุรกิจสปาจะได้เปรียบค่อนข้างมาก อีกทั้งธุรกิจสปารายอื่นที่มีสาขาไม่มาก และปิดตัวไปช่วงวิกฤติโควิด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในทำธุรกิจสูง ทำเป็นโอกาสของบริษัท ที่จะทำเรื่องควบรวมกิจการ หรือ M&A ในอนาคตได้
ขยายสาขาโรงแรม
นายวิบูลย์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ช่วงโควิด-19 ระบาดในประเทศ มีโรงแรม 5 ดาวหลายแห่งติดต่อมา เพื่อให้บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจสปา เพราะเจ้าของธุรกิจโรงแรมไม่อยากลงทุนเอง และมีสถานที่อยู่แล้ว แต่หาผู้เชี่ยวชาญมาดูแลแทน ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทจะขยายสาขาในส่วนของโรงแรม
ปัจจุบันมีทั้งโรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว ที่บริษัทมีสาขาอยู่แล้วเข้ามาเจรจาหลายแห่ง ซึ่งโรงแรมกรุงเทพฯ หลายโรงแรมอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ดีบริษัทขอดูทิศทางสปาโรงแรม ดูเทรนด์นักท่องเที่ยว ว่าจะสามารถกลับมาได้ช่วงใด บริษัทถึงจะสรุปการลงทุน