รีเซต

เจ้าอาวาสรับ ฉันหมูกระทะจริง-ดื่มเหล้าแต่ไม่บ่อย หมอปลาควัก 1,800 ให้ค่าป้าย

เจ้าอาวาสรับ ฉันหมูกระทะจริง-ดื่มเหล้าแต่ไม่บ่อย หมอปลาควัก 1,800 ให้ค่าป้าย
มติชน
5 พฤษภาคม 2565 ( 12:26 )
69
เจ้าอาวาสรับ ฉันหมูกระทะจริง-ดื่มเหล้าแต่ไม่บ่อย หมอปลาควัก 1,800 ให้ค่าป้าย

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่วัดใหม่พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งครั้งแรกปรากฏภาพป้ายติดหน้าวัด ห้ามไม่ให้หมอปลา เข้ามาในวัด ก่อนเจ้าอาวาสจะยอมรับว่าเป็นคนสั่งทำป้ายเอง

 

นอกจากนี้ ยังมีกรณีข้อร้องเรียน ว่ามีการดื่มเหล้า ฉันหมูกระทะเป็นประจำในวัด พระทั้ง 6 รูป ฉันด้วยทั้งหมด โดยเจ้าอาวาส ยังคงปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

 

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 พฤษภาคม 65 ที่วัดใหม่พรหมพิราม หมอปลาพร้อมด้วยป้ารัตนา และทีมงาน ได้เดินทางมาถึงวัดใหม่พรหมพิราม เพื่อติดตามกรณีดังกล่าว ได้พบกับพระครูธีรศาส กิตจาทร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม ได้ตั้งโต๊ะพูดคุยกันพร้อมกับมีการไลฟ์สดผ่านเพจ หมอปลาช่วยด้วย โดยทางหมอปลาได้ทำบุญยอด 1,800 บาท บอกว่าเป็นค่าป้ายไวนิล และคณะก็ได้ร่วมทำบุญเพิ่มด้วย จากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกันทางเจ้าอาวาสวัดก็ได้มีการยอมรับว่าเป็นคนสั่งทำป้ายจริง ขออภัยหมอปลาและทางญาติโยมด้วย ถือว่าทำความผิดก็ได้ทำการปลงอาบัติไปแล้ว แต่ตอนทำนั้นยืนยันว่าคิดน้อยไปหน่อย พอดีมีการส่งต่อภาพป้ายกันมาในไลน์ ตนก็เลยสั่งร้านทำว่าเอาป้ายแบบนี้ ยืนยันว่าข้อความทั้งหมดไม่ได้คิดเองดูจากหลักฐานในไลน์ได้ ยอมรับผิดว่าคิดน้อยไม่หน่อยไม่ทันได้นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา

 

 

ส่วนเรื่องที่เจ้าอาวาสติดเหล้า ฉันเหล้าเป็นประจำนั้น เจ้าอาวาสยอมรับว่าฉันเหล้าจริง แต่ไม่ได้ฉันบ่อย เฉพาะเวลาเครียดเท่านั้น และยอมรับว่าเพิ่งฉันไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนเรื่องหมูกระทะก็ยอมรับเช่นกันว่าเคยมีการโทรสั่งมาฉัน และเลี้ยงพระลูกวัดภายในวัดจริง จากนั้นตัวแทนชาวบ้านที่มาสังเกตุการล้วนบอกว่า เจ้าอาวาสเคยทำแบบนี้มาแล้ว เมื่อ 3 ปีก่อนชาวบ้านก็จับได้เรื่องฉันเหล้าตัวเจ้าอาวาสก็ขอโอกาสมาแล้ว 1 ครั้ง แล้วก็มาทำอีก ส่วนครั้งนี้ชาวบ้านก็เห็นร่วมกันว่าจะไม่ขับไล่เจ้าอาวาส แต่จะให้เจ้าอาวาสพิจารณาตัวเองว่าสมควรที่จะอยู่ในสมณะเพศครองผ้าเหลืองต่อไปหรือไม่ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีการโฟนอินคุยกับผู้ใหญ่บ้านให้คุยกับเจ้าอาวาส ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านก็ยืนยันว่าหากเจ้าอาวาสทำผิดจริงและยอมรับความจริงก็ควรลาสิกขาไป ซึ่งตัวเจ้าอาวาสเองก็ยินดีรับข้อพิจารณานี้ขอเวลาเก็บของตรวจสอบทรัพย์สินเป็นเวลา 3 วัน ก็จะสึกให้ หลังจากนั้นตัวเจ้าอาวาสก็ได้ขอตัวไปพักผ่อน

 

ด้านตัวแทนชาวบ้านก็บอกว่าทางวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ในพื้นที่ชาวบ้านรุ่นต่อรุ่นมาทำบุญที่นี่กันเรื่อยมา จนเมื่อ 3 ปีก่อน มาทราบเรื่องเจ้าอาวาสประพฤติตนไม่เหมาะสม เจ้าอาวาสขอโอกาสญาติโยมอีกครั้ง ชาวบ้านก็ให้โอกาสแต่คนก็เริ่มห่างวัด มาทำบุญน้อยลง แล้วตอนนี้ก็ยังทำอีก และทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง ถึงชาวบ้านจะไม่ขับไล่เพราะเห็นแก่เป็นพระที่บวชมานานถึง 35 ปี แต่ก็ให้ท่านไปพิจารณาตนเอง ว่าสมควรที่จะสึกแล้วหรือไม่ แต่หากท่านยืนยันไม่สึกจะใช้เพียงการปลงอาบัติเพียงอย่างเดียว ก็เกรงว่าชาวบ้านจากนี้คงไม่ศรัทธา และคงไม่เข้ามาทำบุญที่วัดแห่งนี้อีก

 

 

ด้านหมอปลา หรือนายจีรพันธ์ เพชรขาว ได้บอกว่าขออธิบายว่าทีมงานหมอปลา พอลงพื้นที่วัดมีการทุบโน่นนี่นั่น ขออธิบายว่าทุกวัดตนไปกับสื่อ สื่อทุกคนจะขออนุญาตก่อน ยกเว้นวัดที่เกิดเรื่องก่อนหน้านี้เพราะวัดนั้นตัวผู้กระทำความผิดคือเจ้าอาวาส จะไปขอเขาก็ไม่ให้เข้า ตนจึงขอแค่ชาวบ้าน และอยากจะฝากพระพวกนี้ว่าไม่ต้องต่อต้านตนหรอกเพราะจะได้เจอกันแน่โดยเฉพาะเดือนนี้ทั้งเดือนมีอีกหลายแห่ง พวกผู้ใหญ่ นักการเมือง ไม่ต้องมาข่มขู่ตนหรอกเพราะตนและทีมงานทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา คนทำนุบำรุงศาสนามีเยอะ แต่คนที่มาปกป้องอย่างพวกตนมันมีน้อย

 

ด้านทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ บอกว่าเรามาเพื่อกำจัดมารศาสนาการขึ้นป้ายแบบนี้เรียกว่ามีพิรุธ เราทำทุกอย่างตามกฎหมายไปวัดไหนเราขออนุญาต ฝากไว้เจ้าอาวาสบอกบวชมา 35 ปี ชาวบ้านบอกเป็นมานานแล้ว สำนักพุทธท่านทำอะไรอยู่ ชาวบ้านเขาทนกันมาตั้ง 35 ปีแล้ว ท่านไปอยู่ไหนชาวบ้านเขาอยากเปลี่ยน เรามาเพื่อกำจัดมารศาสนากำจัดเห็บไรพวกนี้ที่มาหากินกับผ้าเหลือง

 

พระบุญมา สุจิญโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส จากการสอบถามรองเจ้าอาวาส ว่ารู้สึกอย่างไรที่เจ้าอาวาสจะต้องสึก ก็ยอมรับว่าเสียใจ เจ้าอาวาสเป็นพระนักพัฒนา เท่าที่คลุกคลีกันมาท่านเป็นพระตัวอย่างก็ช่วยกันพัฒนาวัดนี้มา ถือว่าเป็นพระดีในสายตาอาตมา สิ่งที่ท่านพลั้งไปมันเป็นความคิดแต่ละคน ส่วนตนเองก็อาจจะสึกตามเจ้าอาวาสเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง