ราษฎรพม่ากว่า 400 คน ลี้ภัยเข้าเขตไทย หลังชายแดนปะทะเดือด ใช้ปืน ค.60 โต้ 2 ฝ่าย
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารรัฐบาลเมียนมา สนธิกำลังกับทหารกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (บีจีเอฟ.) ได้เคลื่อนกำลังทหารเข้าไปพื้นที่บ้านผาลู โพ ตรงข้ามบ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อ.แม่สอด จังหวัดตาก โดยใช้อาวุธปืน ค.60 ยิงใส่ทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.กลุ่มอิสระของนายพันจอแต้ อย่างต่อเนื่องนับเป็นชั่วโมง และเป็นห้วงๆ
การปฏิบัติการทางทหารดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่ ฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.กลุ่มอิสระได้จับตัว ตำรวจเมียนมาที่ประจำอยู่สถานีตำรวจบ้านวาเล่ย์ ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ ตำบลวาเล่ย์ ของประเทศไทย ทั้งหมด 3 นาย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่อีก 1 คน การจับกุมเกิดขึ้นระหว่างทางบ้านวาเล่ย์ กับบ้านมินละปั่น ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คน กำลังไปรับเสบียงอาหารที่บ้านมินละปัน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายแดนไทย- เมียนมา กล่าวว่า การสู้รบทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในวงจำกัด ไม่มีกระสุนปืนค.ล้ำมาตกในเขตไทย ขณะที่ฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบี.ได้ตอบโต้ด้วยปืนค.60 เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีราษฎรเมียนมา และกะเหรี่ยง สัญชาติเมียนมา จำนวน 400 คน ลี้ภัยเข้ามาเขตไทยที่บ้านแม่โกนเกน โดยเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด และฝ่ายปกครอง อ.แม่สอด ได้เข้าไปดูรักษาความปลอดภัย
แหล่งข่าวฝ่ายกะเหรี่ยงเปิดเผยว่า ก่อนที่ทหารเมียนมา จะเข้าไปปฏิบัติการทางทหาร ได้ถูกทหารกะเหรี่ยงซุ่มยิง ก่อนเข้าไปหมู่บ้านติ่นหง่านหยิ่นหน่อง จังหวัดเมียวดี ลึกจากชายแดนไทยเมียนมา ประมาณ 8 กิโลเมตร ทำให้ทหารเมียนมาได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต จำนวน 32 คน
ล่าสุดทหารไทย และตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อยตชด.ที่ 346 อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ตึงแนวชายแดนไทย-เมียนมา ตลอดแนวชายแดนบ้านแม่โกนเกน