เผยหลักฐานเมือง "สแกมเมอร์" ริมน้ำเมยในเมียวดี กวาดล้างยังไง ให้กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม?

หากจำกันได้ เมื่อหลายเดือนก่อน ไทยเป็นพาดหัวใหญ่ระดับโลก เริ่มจากกรณีดาราจีน หวัง ซิง ที่ถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา ได้รับการช่วยเหลือออกมา และนำไปสู่ปฏิบัติการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ ที่ถูกหลอกไปเป็นสแกมเมอร์ในเมียวดีของเมียนมา ติดจังหวัดตากของไทย 

เกิดเป็นภาพชาวต่างชาติหลายพันคน ข้ามน้ำมาไทย เพื่อเดินทางต่อกลับประเทศต้นทาง ตามด้วยกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยงของหม่อง ชิตตู่ ที่ประกาศกวาดล้างแก๊งสแกมเมอร์ให้หมดไป

แต่ไม่นานมานี้ สำนักข่าว AFP เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมและภาพจากโดรน แสดงให้เห็นกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ ที่รักษาความปลอดภัยแน่นหนา ยังคงมีกิจกรรมต่อเนื่อง และขยายตัวใหญ่ขึ้น 

AFP ชี้ว่า กลุ่มอาคารเหล่านี้ เลื่องชื่อในด้านศูนย์สแกมเมอร์ ทั้งหลอกให้รัก หลอกลงทุน โดยมีทุนเทาชาวจีนเป็นเจ้าของ และอาจร่วมมือกับกองกำลังติดอาวุธที่คุมพื้นที่อยู่ด้วย

สอดคล้องกับทางการไทยที่ชี้ว่า อันที่จริง อาจมีเหยื่อค้ามนุษย์นับแสนคน ที่ถูกบีบและทรมานให้ต้องหลอกเงินคนทั่วโลก อยู่ในโรงงานสแกมเมอร์เหล่านี้ 

ภาพถ่ายดาวเทียมที่ AFP เผยแพร่ออกมา ยังชี้ให้เห็นข้อมูลที่น่าสนใจ คือ การก่อสร้างอาคาร ดูเหมือนจะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง บริเวณใจกลางศูนย์สแกมเมอร์ที่มีประมาณ 27 แห่ง ริมแม่น้ำเมย

อีกทั้ง มีการติดตั้งจานดาวเทียมสตาร์ลิงค์ของอีลอน มัสก์ เกือบ 80 จานด้วย ซึ่งบริษัท Space X เจ้าของดาวเทียมสตาร์ลิงค์ ยังไม่ตอบข้อซักถามของ AFP ในเรื่องนี้

ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบเรือข้ามฟากไม่ต่ำกว่า 5 ลำ ข้ามจากฝั่งไทยไปยังศูนย์สแกมเมอร์เหล่านี้ เสมือนว่าส่งเสบียงสนับสนุน  

รายงานจากสหประชาชาติชี้ว่า ขบวนการสแกมเมอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะในเมียนมาและกัมพูชา หลอกเงินผู้คนทั่วโลกไปถึง 1.2 ล้านล้านบาทในปี 2023 เพียงปีเดียว และแม้จะปรากฎภาพที่เหมือนจะมีความหวัง เหยื่อค้ามนุษย์ที่ถูกหลอกไปได้รับการช่วยเหลือ แม้กระทั่งรัฐบาลจีนก็กดดันให้เร่งจัดการ เพราะเหยื่อค้ามนุษย์จำนวนมากก็เป็นคนจีน  

แต่หลักฐานของ AFP นี้ อาจชี้ว่า กวาดล้างอย่างไรก็อาจไม่หมด แม้กระทั่งปฏิบัติการกวาดล้างเอง ก็อาจเป็นสแกมอย่างหนึ่งของขบวนการสีเทาเหล่านี้ด้วย