ลูกชาย "อองซาน ซูจี"​ ขอร้องจีนให้ช่วยแม่ออกจากเรือนจำ

คิม อริส วัย 48 ปี ลูกชายคนเล็กของนางอองซาน ซูจี ซึ่งไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวใด ๆ มากนักนับตั้งแต่นางซูจีถูกจับกุม ล่าสุด ได้ออกมาร้องขอให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ให้ช่วยขอให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวแม่ของเขา โดยชี้ว่าจีนถือเป็นผู้มีอิทธิพลสูงที่สุดในบรรดาต่างชาติที่มีความสัมพันธ์ และมีการลงทุนในเมียนมามาอย่างยาวนาน 

"ผมขอร้องไปยังประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อช่วยส่งเสียงให้ปล่อยตัวเธออกมา และขอช่วยเพิ่มแรงกดดันไปยังกองทัพ และจะต้องมั่นใจว่า คนที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมานั้น.. จะเป็นอิสระได้อย่างแท้จริง" อริสกล่าว

"ที่ผ่านมา จีนได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวซูจีหลายต่อหลายครั้ง และผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของจีนเองก็ต้องการจะพบเธอด้วย แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงตัวเธอได้เลย" เขากล่าวเสริม

ลูกชายของนางซูจี ระบุว่า เขาได้เชิญหลาย ๆ คนมายังด้านนอกเรือนจำ เพื่อหวังจะได้เจอหน้าเธอ หรืออย่างน้อยก็เพียงต้องการให้ใครสักคนมายืนยันว่าเธอยังมีชีวิตอยู่จริง เพราะเขากังวลอย่างมากว่า มารดาอาจเสียชีวิตในเรือนจำได้ เพราะสภาพความเป็นอยู่ในนั้นเลวร้ายมาก

อริสบอกว่า เขาเพียงต้องการเห็นแม่ตนเองอีกครั้ง แม้ในเรือนจำก็ตาม โดยทั้งคู่ต้องแยกจากกันนับตั้งแต่ที่เขาอายุเพียง 11 ปี ในเวลาที่ซูจีเลือกเดินทางกลับนครย่างกุ้ง เพื่อดูแลแม่ที่ล้มป่วยเมื่อปี 1988 

ทั้งนี้ นางซูจี ในวัย 80 ปี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐ ในสมัยรัฐบาลพลเรือน เคยถูกจองจำนานถึง 19 ปีในเรือนจำ ตั้งแต่ปี 1989  ก่อนได้รับการปล่อยตัว - แต่ก็ถูกจับกุมอีกครั้งหลังจากที่กองทัพก่อรัฐประหารเมื่อปี 2021 โดยเธอถูกกักตัวไว้ที่บ้าน  แต่ถูกย้ายเข้าเรือนจำอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ 

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานของหน่วยงานสอบสวนอิสระในเมียนมา ของสหประชาชาติ เปิดเผยว่า เหยื่อที่ถูกกักขังในเรือนจำเมียนมาถูกทำร้ายร่างกายอย่างโหดร้าย ทั้งการช็อตไฟฟ้า, ข่มขืนหมู่, การรัดคอ และการทารุณรูปแบบอื่น ๆ ด้วย 

ด้านรัฐบาลเงา หรือ NUG ซึ่งเป็นรัฐบาลพลเรือนที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ระบุว่า หากนางซูจียังคงถูกกักขัง หรือหากเธอเสียชีวิตในเรือนจำ สถานการณ์วิกฤตในประเทศจะเลวร้ายลงกว่านี้อีก

ซาซา รัฐมนตรีความร่วมมือระหว่างประเทศของ NUG ระบุว่า "ความแตกแยกจะยิ่งรุนแรง วิกฤตจะยิ่งยืดเยื้อ และการประนีประนอมระดับชาติก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก .. การไม่ปรากฎอยู่ของเธอ จะยิ่งเติมเชื้อเพลิงให้กับความไร้เสถียรภาพ และกระทบไปทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการไหลทะลักของผู้ลี้ภัย, วิกฤตมนุษยธรรม และความอ่อนแอของบทบาทอาเซียนในการแสวงหาสันติภาพ"  

คิม อริส ยังบอกด้วยว่า เขาเชื่อว่านางซูจี มีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน มากกว่าที่รัฐบาลทหารเมียนมามี  โดยปธน.สี และนางซูจี เคยพบกันเมื่อปี 2020 ระหว่างการเยือนเมียนมา 2 วัน  ที่นำมาสู่ข้อตกลง 33 ประการในการสร้างโครงการต่าง ๆ รวมถึงการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนด้วย