เนสท์เล่ลุยตลาดอาหารจากพืชมูลค่า 900 ล้าน ส่งแบรนด์ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ เจาะกลุ่มคนลดเนื้อสัตว์-รักสุขภาพ

น.ส.เครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า เปิดเผยว่า เนสท์เล่พร้อมทำตลาดผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช (Plant-based Foods) ภายใต้แบรนด์ ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ (Harvest Gourmet) ในไทยเดือนมี.ค.นี้ เพราะเห็นโอกาสในตลาดภูมิภาคเอเชีย มีแนวโน้มการเติบโตของผลิตอาหารจากพืชที่ดี และต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้เปิดตัวทำตลาดที่จีน และออสเตรเลีย ไปแล้ว

สำหรับตลาดไทย พบว่าตลาดผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชมีมูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตปีละ 20% มาจากผู้บริโภคคนไทยใส่ใจในสุขภาพ และโภชนาการอาหารมากขึ้น ขณะเดียวกันกลุ่มผู้บริโภคที่เรียกว่า Flexitarian คือ คนที่ลดการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นบางมื้อ หรือบางวัน มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการสำรวจตลาด พบว่า คนไทย 1 ใน 4 ของประชากรจะเป็นกลุ่ม Flexitarian และในกลุ่มนี้ 65% จะรักสุขภาพ และอีก 20% กลุ่มดูแลควบคุมน้ำหนัก

ทำให้เนสท์เล่เห็นศักยภาพจึงเข้ามาในตลาด และจะเป็นสินค้าใหม่ที่จะช่วยเสริมพอร์ตธุรกิจระยะยาว โดยการทำตลาดในปีแรกจะเน้นสร้างแบรนด์สินค้า และสร้างประสบการณ์ในการรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช ด้วยร่วมกับพันธมิตรร้านอาหาร ในการพัฒนาเมนูอาหาร และจำหน่ายในร้าน เริ่มเดือนมี.ค.นี้ ก่อน 1 ราย เป็นร้านอาหารเชนใหญ่ที่มีสาขากว่า 100 สาขาทั่วประเทศ และยังไม่มีวางจำหน่ายตามร้านค้าปลีก เพราะต้องดูการตอบรับ และความพร้อมของผู้บริโภคก่อน

“ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ เป็นอาหารทำมาจากถั่วเหลืองเป็นหลัก แต่งสีและรสสัมผัสด้วยบีทรูท แครอท กับน้ำมะพร้าว เน้นใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ใส่ผงชูรส มี 5 ชนิด ได้แก่ เนื้อเบอร์เกอร์, เนื้อบดละเอียด, มีทบอล, ไก่ย่างรมควัน และไก่ชุบเกล็ดขนมปังทอด ทำให้ร้านอาหารมีวัตถุดิบไปรังสรรค์เมนูได้หลากหลาย พัฒนามาจากพฤติกรรมของกลุ่ม Flexitarian ที่ต้องการอาหารที่รสชาติคล้ายเนื้อสัตว์ ซึ่งปัจจุบันสินค้านำเข้าโรงงานผลิตในมาเลเซีย”