รีเซต

โปรดเกล้าฯ สถาปนา "พระพรหมดิลก" หลังพ้นผิดทุกคดีเงินทอนวัด

โปรดเกล้าฯ สถาปนา "พระพรหมดิลก" หลังพ้นผิดทุกคดีเงินทอนวัด
TNN ช่อง16
18 มีนาคม 2566 ( 17:44 )
188
โปรดเกล้าฯ สถาปนา "พระพรหมดิลก" หลังพ้นผิดทุกคดีเงินทอนวัด

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า 


ตามที่ พระพรหมดิลก (เอื้อน กลิ่นสาลี) ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดอาญาและได้มีพระบรมราชโองการถอดถอนสมณศักดิ์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2561 นั้น บัดนี้ คดีถึงที่สุดแล้ว โดยพฤติการณ์ถือได้ว่าไม่ใช่ความผิดอุกฉกรรจ์ หรือความผิดร้ายแรง หรือเป็นผู้ร้ายสำคัญ ประกอบกับไม่มีการกล่าวคำลาสิกขา และไม่มีการดำเนินการให้สละสมณเพศ 


ทั้งปรากฏข้อเท็จจริงว่า ยังคงดำรงตนอย่างพระภิกษุโดยตลอดระหว่างถูกคุมขัง จึงมีสภาวะเป็นพระภิกษุ มีสถานะเป็น พระมหาเอื้อน หาสธมโม (เปรียญธรรม 9 ประโยค) ซึ่งมหาเถรสมาคมมีมติรับทราบแล้ว เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566


อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 ตรี แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาให้ พระมหาเอื้อน หาสธมฺโม (เปรียญธรรม 9 ประโยค) ดำรงสมณศักดิ์ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมดิลก ปริยัตินายกคณาทร บวรศาสนกิจวิธาน ศีลสมาจารนิวิฐ ตรีปีฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดสามพระยา พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร โดยให้ถือว่าไม่เคยถูกถอดถอนสมณศักดิ์และราชทินนามมาก่อน


สำหรับ พระพรหมดิลก เดิมชื่อ เอื้อน กลิ่นสาลี เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ณ บ้านเลขที่ 116 หมู่ที่ 6 ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


พระพรหมดิลก อุปสมบทเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 ณ วัดมหาพล ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเจ้าอธิการพัฒน์ ติสฺสสุวณฺโณ วัดปรีดาราม ตำบลแม่ลา อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการคต โฆสิโต วัดมหาพล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูอุดมนครกิจ (วาส สุนฺทโร) วัดตะโหนด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า หาสธมฺโม


ท่านเป็นที่รู้จักจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหารและอาจารย์ใหญ่สำนักเรียนวัดสามพระยา ต่อมาได้ลาสิกขาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 โดยมีพระจากวัดเสมียนนารีมาทำพิธี เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า กระทำการทุจริตและถูกดำเนินคดีอาญา ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือ โดยทุจริต พร้อมกับพระอีกหลายรูปจากวัดสามพระยา และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หลังจากได้รับการยกฟ้องแล้วจึงได้คืนสู่สมณเพศเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2563 ณ พระอุโบสถวัดสามพระยาวรวิหาร มีชื่ออย่างพระสงฆ์ทั่วไปว่า พระมหาเอื้อน หาสธมฺโม


ในวันที่ 18 มีนาคม 2566 มีประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ในราชทินนามเดิม ที่ "พระพรหมดิลก" โดยให้ถือว่าไม่เคยถูกถอดถอนสมณศักดิ์ และราชทินนามมาก่อน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง