นครพนม ผู้ว่าฯ นำทีมลุยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไม่เว้นทั้งรอบดึก สกัดโควิด เขตเทศบาล
ผู้ว่า นำทีมลุยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไม่เว้นทั้งรอบดึก สกัดโควิด เขตเทศบาล เน้นพื้นที่เสี่ยง เลี่ยงกระทบประชาชน เข้มเข้าออก ปิดธุรกิจเสี่ยงแพร่เชื้อ
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2563 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำเจ้าหน้าที่ ทีมเฝ้าระวังควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครพนม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรถฉีดยาฆ่าเชื้อป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อโควิด ระดมฉีดพ่นฆ่าเชื้อป้องกันการแพร่ระบาด ในพื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึง สถานที่สำคัญ ที่มีคนพลุกพล่านสัญจรไปมา รวมถึงพื้นที่เสี่ยง อาทิ ลานพญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คพญานาคศักดิ์สิทธิ์ เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ไปจนถึงเส้นทางจุดเสี่ยง หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม และชุมชนที่มีความหนาแน่น โดยก่อนนี้ ได้มีการระดม นำเจ้าหน้าที่ เข้าฉีดพ่นควบคุมต่อเนื่อง มาตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ยกระดับการควบคุม เพิ่มความเข้มในการป้องกันการแพร่ระบาด จึงต้องมีการฉีดพ่น ทั้งกลางวัน และกลางคืน อีกทั้ง เป็นการเลี่ยงไม่ให้กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ในพื้นที่ และจะมีการฉีดพ่น ต่อเนื่องทุกวัน ทั้งกลางวัน กลางคืน ควบคู่กับการจัดกิจกรรมทำความสะอาดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ในจุดเสี่ยงทุกวัน
ด้าน นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ จ.นครพนม ได้ระดมทุกภาคส่วน เข้มงวดในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่ ทั้ง 12 อำเภอ กำชับให้ ทุกพื้นที่ ดำเนินการตรวจสอบคัดกรอง บุคคลกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ไปจนถึงร่วมกันทำความสะอาดฆ่าเชื้อตามชุมชน และสถานที่สำคัญ โดยทางจังหวัดนครพนม ได้ มามาตรการเข้ม ทั้ง การควบคุม การเข้าออก ของประชาชน ทั้งในประเทศ รวมถึง ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการจัดทีมคัดกรอง เฝ้าระวัง ไปดูแลทุกจุด นอกจากนี้ยังได้มีการ ประกาศให้ปิดสถานบริการ ร้านเหล้าสถานบันเทิง ธุรกิจกลุ่มเสี่ยง รวมถึง ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร เน้นให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน ซึ่งอาจกระทบความเป็นอยู่ แต่ต้องร่วมกันควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันวันนี้ ได้เพิ่มระดับการควบคุม นอกจากจะมีการทำความสะอาดตามจุดเสี่ยง ในช่วงกลางคืน ยังได้ประสานหน่วยงานปศุสัตว์ นำรถฉีดยาฆ่าเชื้อลงพื้นที่ ฉีดพ่นทั้งกลางวัน กลางคืน เพื่อที่จะควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด อีกทั้งยังลดปัญหาไม่ให้กระทบความเป็นอยุ่ประชาชน จึงต้องหันมาฉีดพ่นช่วงกลางคืน ควบคู่กันไป และจะต้องมีการดำเนินการต่อเนื่องทุกวัน อย่างไรก็ตาม ให้ประชาชน ร่วมมือร่วมใจกัน ในการเฝ้าระวัง ดูแลตัวเอง และคนใกล้ชิด ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.นครพนม ถือว่า ควบคุมได้ มี กลุ่มเสี่ยงที่กลับมาจากทำงานต่างประเทศ ที่ต้องกักตัวในบ้านดูอาการ จำนวน 19 คน แต่ยังไม่พบมีอาการป่วย รวมถึงยังไม่มีผู้ติดเชื้อ มั่นใจว่า หากประชาชน ให้ความร่วมมือเอาใจใส่ จ.นครพนม จะสามารถควบคุมได้ และไม่มีคนป่วยติดเชื้อโควิด