รีเซต

หุ้นสหรัฐฯร่วง เก็ง FED ลดดบ. 0.25% NFLX ลบ 2% โบรกแนะ “ขาย”

หุ้นสหรัฐฯร่วง เก็ง FED ลดดบ. 0.25% NFLX ลบ 2% โบรกแนะ “ขาย”
ทันหุ้น
8 ตุลาคม 2567 ( 13:01 )
41

 

#NFLX #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัส

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงวานนี้ จากความกังวลเรื่องปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ได้แรงหนุนน้อยลงหลังตลาดกลับมาให้น้ำหนักว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในอัตราปกติที่ 25bps ในการประชุมเดือน พ.ย.

 

ด้าน ดัชนี VIX ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 22 จุด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

 

ส่วนราคาทองคำปรับลงบ้างหลัง Bond yield ดีดตัวสูงขึ้น

 

ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นแตะระดับ US$77/bbl จากความกังวลของสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางหากอิสราเอลบุกโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่าน โดยเฉพาะหากมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นช่องทางการส่งผ่านน้ำมันราว 20% ของการขนส่งน้ำมันทั่วโลก โดยข้อมูลจาก EIA (2018) ระบุว่า เกือบ 80% ของน้ำมัน (Crude oil & Condensate) ที่ผ่านช่องทางดังกล่าวถูกขนส่งไปยังตลาดเอเชีย โดยกว่า 65% มาจากประเทศหลัก คือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์)

 

ทั้งนี้ การปรับขึ้นของราคาน้ำมัน อาจสร้างความกังวลต่อการเร่งตัวของเงินเฟ้อในระยะต่อไป และทำให้ตลาดลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยในอัตราสูงของธนาคารกลาง

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเผยตัวเลขยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงาน (Factory Orders) เดือน ส.ค. ออกมา อ่อนแอที่ -5.8% MoM (-3.9% YoY) อ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดไว้มากที่ -2.0% MoM (-1.6% YoY) ส่งผลให้ความหวังว่าประเทศยักษ์ใหญ่ในยุโรปจะฟื้นตัวได้เร็วยังมีความเป็นไปได้ในระดับต่ำ และช่วยหนุนมุมมอง ที่ ECB อาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อเนื่องในการประชุมสัปดาห์หน้า (17 ต.ค.) เนื่องจากก่อนหน้านี้นาง Lagarde ประธาน ECB ได้แสดงความเห็นว่าการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เข้ามา

 

ด้าน Goldman Sachs ปรับลดน้ำหนักโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า เหลือเพียง 15% จากเดิม 20% หลังตัวเลขตลาดแรงงานเมื่อวันศุกร์ออกมาแข็งแกร่ง ขณะที่มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน โดยออกรายงานระบุ 10 เหตุผลทำไมถึงต้องซื้อหุ้นจีน อาทิ รัฐบาลยอมรับในจุดที่เป็นปัญหา และผลักดันนโยบายไปยังเศรษฐกิจและตลาดหุ้น, การตอบสนองของนโยบายในรอบนี้ต่างออกไปและนักลงทุนกำลังได้รับในสิ่งที่คาดหวังเป็นอย่างมาก, นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น บางทีอาจเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนของสถานการณ์ แต่แนวโน้มของกำไรได้มีการฟื้นตัวแล้วพอประมาณ และแม้ว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจะไม่มั่นคง แต่หุ้นจีนยังคงมีที่ยืนในพอร์ตลงทุนของนักลงทุน เป็นต้น

 

วันนี้ติดตามการตอบคำถามต่อรัฐสภาญี่ปุ่นของนาย Ishiba (7-8 ต.ค.), ตัวเลขค่าจ้างของญี่ปุ่น (8 ต.ค.) และหน่วยงาน NDRC ของจีนจะมีการอัพเดทมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (8 ต.ค.)ซึ่งหากทางการจีนมีการ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ที่ชัดเจนขึ้น (โดยเฉพาะภาคการคลัง) อาจทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจะสามารถพลิกฟื้นภาคเศรษฐกิจจริงได้ต่อเนื่องในระยะกลาง และเห็นการทยอยปรับประมาณการ GDP และ Earnings ขึ้นในระยะต่อไป

 

ข่าวหุ้นอัพเดท : Netflix, NXP Semiconductors, Deckers Outdoor

.

STOCK HIGHLIGHT

Netflix (NFLX.US) ปรับตัวลง 2.18% หลังนักวิเคราะห์จาก Barclays ระบุว่า Netflix ได้สร้างธุรกิจที่ "โดดเด่น" จากความนิยมในการสตรีมมิ่ง แต่คาดว่าการเติบโตของรายได้จะชะลอตัวลง และได้ปรับลดคำแนะนำเป็น Underweight จาก Equal Weight

 

- นักวิเคราะหระบุว่า มูลค่าปัจจุบันของ Netflix ไม่สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตในอนาคต มากไปกว่านั้น Netflix จำเป็นต้องเร่งการเติบโตของรายได้จากโฆษณาอย่างมากเพื่อชดเชยการขยายตัวของราคาและจำนวนสมาชิกที่อ่อนแอลงในตลาดหลัก

 

-ในขณะเดียวกัน Netflix ได้แจ้งว่ารายได้จากโฆษณาจะยังไม่ใช่รายได้หลักจนกว่าปี 2026 แม้ว่าจะมีการเติบโตที่ดีในไตรมาสล่าสุด โดยสมาชิกในแพ็กเกจที่มีโฆษณาเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

NXP Semiconductors (NXPI.US) ปรับตัวขึ้น 2.36% หลังนักวิเคราะห์จาก UBS เพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น Buy พร้อมเพิ่มราคาเป้าหมายมาอยู่ที่ $285 ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตระยะยาวของบริษัท แม้ว่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยรวมจะเผชิญภาวะชะลอตัว แต่ NXP ได้แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง

 

- UBS มองว่า NXP มีความได้เปรียบในการรับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงสู่สถาปัตยกรรมแบบ zonal และ domain ในยานยนต์ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าของ micro-controller ต่อยานพาหนะมากกว่า 30% โดยคาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจยานยนต์ของ NXP จะเติบโตในอัตรา "high single-digit"

 

- นอกจากนี้ UBS ยังชื่นชมความสามารถของผู้บริหารในการจัดการกับภาวะถดถอยของอุตสาหกรรม โดยบริษัทสามารถจำกัดการหดตัวของอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่เพียง 50 bps ในขณะที่คู่แข่งหลายรายเผชิญกับการหดตัวมากกว่า 900 bps

.

Deckers Outdoor (DECK.US) ปรับตัวลง 7.20% หลังนักวิเคราะห์จาก Seaport Global ปรับลดคำแนะนำลงจาก Buy มาอยู่ที่ Neutral สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับ momentum ของแบรนด์ Hoka และ UGG ที่ลดลง

- แม้ว่า HOKA จะยังคงเป็นแบรนด์ชั้นนำในตลาดรองเท้าวิ่งเฉพาะทาง แต่กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งอย่าง Asics และ Brooks นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพการเติบโตของรายได้ในช่องทาง Wholesale

 

Source: Bloomberg, Seeking Alpha, Investing, Infoquest, Reuters

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง