‘CHOW’ ยันพื้นฐานแกร่ง เข้าสู่โหมดโต-เป้า 150 เมก

CHOW ย้ำปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เทิร์นอะราวด์แล้ว เข้าสู่โหมดเติบโต มั่นใจพลังงานปีนี้โตตามเป้า 150 เมกะวัตต์ แย้มปัจจุบันเคลียร์หนี้จบแล้ว กด D/E เหลือเพียง 0.31 เท่า ส่วนธุรกิจเหล็กสดใส ลุยเทรดดิ้ง-OEM พร้อมแจงไม่ทราบสาเหตุราคาหุ้นปรับตัวลง
นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ในโหมดของการเติบโต มีการขยายคนเพื่อรองรับกับงานมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทวางเป้าหมายมีกำลังผลิตอยู่ที่ 150 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 350 เมกะวัตต์ ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากหลายองค์กรให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม
** ธุรกิจเหล็กสดใส
ส่วนธุรกิจเหล็กยังมีทิศทางที่สดใส ซึ่งบริษัทได้เปลี่ยนโมเดลธุรกิจมาเป็นรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับลูกค้ารายใหญ่ และธุรกิจเทรดดิ้ง หรือซื้อมาขายไปในส่วนของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมาตรฐาน ตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ ซึ่งในปีนี้
คาดว่าจะขายได้ไม่น้อยกว่า 2.8 แสนตัน
ขณะที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้งหมด 1,140 ล้านบาท ทำให้ไม่มีภาระ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Debt to Equity) ลดลงมาอยู่ที่ระดับเพียง 0.31 เท่า เท่านั้น สามารถขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้หลังจากที่บริษัทได้ขายโครงการ Solar Farm ญี่ปุ่นกำลังผลิตรวมกว่า 60 เมกะวัตต์ มูลค่าสุทธิของทำให้บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีฐานทุนที่มากขึ้นในการขยายการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ๆ
“ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง เราผ่านจุดเทิร์นอะราวด์มาแล้ว อยู่ในโหมดการเติบโต มีการขยายคนรองรับ งานต่างๆ และคาดว่าปีนี้พลังงานเราจะโตตามเป้าที่ 150 เมกะวัตต์ เพราะปัจจุบันก็ได้กว่า 100 เมกะวัตต์แล้ว ส่วนหนี้ที่เคยมีมาเราก็ตัดจบหมดแล้ว ทำให้ฐานทุนเราแข็งแกร่งมากขึ้น และมีเพียงพอที่จะไปสู่ 350 เมกะวัตต์ได้ ส่วนธุรกิจเหล็กมองว่าการเมืองจบการก่อสร้างน่าจะกลับมามากขึ้น แต่เราก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนักกับราคาที่ผันผวนขึ้นลง เพราะเราทำเทรดดิ้ง และ OEM” นายปรมัตถ์ กล่าว
** แจงราคาหุ้นลง
สำหรับปัจจุบันบริษัทมีไซต์งานก่อสร้างแล้วกว่า 2,500 ไซด์ทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัด หากมีการเซ็นสัญญาเพิ่มเข้ามาใหม่จะทำให้เกิด Economy of Scale ได้มาก
อนึ่ง CHOW แจ้งตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการที่ราคาหุ้น CHOW วานนี้ย่อตัวลง 26.16% อยู่ที่ 1.47 บาทต่อหุ้นนั้น ขอชี้แจงว่าบริษัทไม่ทราบถึงสาเหตุการปรับตัวลงของราคาหุ้น และจากการที่บริษัทได้ติดตามข่าวสารต่างๆ ก็ยังไม่มีกระแสข่าวด้านลบใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท รวมถึงบริษัทยังคงดำเนินธุรกิจเป็นปกติ และมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ ซึ่งปัจจัยพื้นฐานของบริษัทยังคงแข็งแรง มีสภาพคล่องที่สูง และมี Net Debt ที่ค่อนข้างตํ่า และไม่มีปัจจัยพื้นฐานใดที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสําคัญ