ทองคำร้อนแรง! 'หมอกฤชรัตน์' ปรับเป้าใหม่ 4,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะกลยุทธ์ "ย่อซื้อ-ทยอยขาย"

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ถึงสถานการณ์ราคาทองคำที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าได้ทำจุดสูงสุดใหม่ที่บริเวณ 4,170-4,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศพุ่งแตะระดับ 64,000 บาท ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา
นพ.กฤชรัตน์ วิเคราะห์ว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผลักดันราคาทองคำในรอบนี้คือ ภาวะการลดความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์ (De-dollarization) ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการที่กองทุนและนักลงทุนสถาบันทั่วโลกเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) และสินทรัพย์ที่รักษามูลค่า (Store of Value) มากขึ้นเรื่อยๆ
จากแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งและต่อเนื่อง นพ.กฤชรัตน์ ได้ประกาศปรับเป้าหมายราคาทองคำใหม่ในช่วงที่เหลือของปี โดยมองว่ามีโอกาสไปถึงระดับต่อไปนี้
- ราคาทองคำตลาดโลก (Spot Gold) ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 4,300 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
- ราคาทองคำในประเทศ ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 66,000 บาทต่อบาททองคำ
เปิดกลยุทธ์ทำกำไรในตลาดผันผวน: "ย่อซื้อ-ทยอยขาย"
นพ.กฤชรัตน์ ได้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจนเพื่อสร้างผลตอบแทนและเกาะกระแสขาขึ้นไปได้อย่างปลอดภัย
"คำแนะนำคือการ เทขายทำกำไรบางส่วนตลอดทาง ย้ำว่าขายเพียงบางส่วน ประมาณ 10-20% เพื่อล็อกกำไร และ ต้องกลับเข้าซื้อในจังหวะที่ย่อตัว เพื่อให้สามารถขี่ไปกับเทรนด์นี้ได้"
แนวรับสำคัญในการเข้าซื้อ
- แนวรับที่ 1 4,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- แนวรับที่ 2 4,070 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นพ.กฤชรัตน์ เปิดเผยว่าผลตอบแทนของทองคำตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน (Year-to-Date) อยู่ในระดับที่สูงมาก โดย ราคาทองคำในตลาดโลกให้ผลตอบแทนแล้วถึง 64% ขณะที่ ราคาทองคำไทยให้ผลตอบแทน 49% ซึ่งตอกย้ำถึงการเป็นสินทรัพย์ที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
