รีเซต

โดนอีก! กองทัพงัดคลิปโชว์ นักธุรกิจพม่า อ้างให้สินบน ซูจี 15 ล้านบาท

โดนอีก! กองทัพงัดคลิปโชว์ นักธุรกิจพม่า อ้างให้สินบน ซูจี 15 ล้านบาท
มติชน
18 มีนาคม 2564 ( 17:06 )
60

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม สำนักข่าวรอยเตอร์ และเอเอฟพี รายงานว่า ฝ่ายความมั่นคงเมียนมายังคงมุ่งเดินหน้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง ในนครย่างกุ้ง และเมืองต่างๆ ที่มีการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารต่อไป

 

โดยที่เมืองนะเมาะ บ้านเกิดของซูจี มีประชาชนหลายพันคนออกมาเดินขบวนประท้วง แต่ยังไม่มีรายงานเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ด้านนางออง ซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนและหัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ที่ถูกกองทัพยึดอำนาจไป กำลังเผชิญการถูกยัดเยียดข้อหาคอร์รัปชั่นให้เพิ่มอีก หลังจากสถานีโทรทัศน์เมียวดีของทางกองทัพ นำคลิปวิดีโอหนึ่งมาออกอากาศ เมื่อช่วงเย็นวันก่อนหน้า เป็นภาพของ นายหม่อง เวะ นักธุรกิจชาวเมียนมา ให้การรับสารภาพว่า เขาได้ให้เงินนางซูจีจำนวน 4 ครั้ง ครั้งละระหว่าง 50,000-250,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 500,000 ดอลลาร์ (ราว 15 ล้านบาท) จากปี 2018-2020

 

“จากคำให้การของนายหม่อง เวะ…นางออง ซาน ซูจี กระทำผิดจากการรับสินบน และคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตกำลังสอบสวนเพื่อดำเนินการภายใต้กฎหมายต่อต้านการทุจริตต่อไป” สถานีโทรทัศน์เมียวดีรายงาน

 

เมื่อสัปดาห์ก่อน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่าเจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวนนางซูจีกรณีรับเงินสินบน โดยอ้างมุขมนตรีนครย่างกุ้งที่ให้การว่าเป็นผู้ให้เงินสินบนนางซูจีจำนวน 600,000 ดอลลาร์ (ราว 18 ล้านบาท) และ ทองคำหนัก 10 กิโลกรัม ซึ่งนายขิ่น หม่อง ซอ ทนายความของซูจี โต้แย้งว่าเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยและไร้เหตุผล “ออง ซาน ซูจี อาจจะแปรพักตร์…แต่การรับสินบนและทุจริต ไม่ใช่วิสัยของเธอ” ทนายซูจีกล่าว และว่า คนส่วนใหญ่ในเมียนมาไม่เชื่อในข้อกล่าวหาเหล่านี้

 

ทั้งนี้ ซูจี ได้ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีในหลายข้อหา ทั้งการนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารผิดกฎหมายและการฝ่าฝืนกฎว่าด้วยการควบคุมโรคโควิด-19

 

อิระวดี และ เมียนมานาว สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหาร อายุ 24 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตลงในวันที่ 17 มีนาคม หลังจาก 3 วันก่อนเขาถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมและทุบตีทำร้ายในเมืองโมนยะวา

 

การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตในเมียนมา ยังคงถูกควบคุมอย่างเข้มงวด โดยสัญญาณไวไฟในพื้นที่สาธารณะส่วนใหญ่ถูกปิดกั้น ประชาชนในหลายพื้นที่ รวมถึงในเมืองทวาย ระบุว่าไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต

 

ขณะที่สำนักข่าวท่าขี้เหล็กนิวส์ ยังตีพิมพ์ภาพถ่ายคนงานกำลังตัดสายเคเบิลใยแก้วที่เชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย ซึ่งรอยเตอร์ระบุว่ายังไม่สามารถตรวจสอบรายงานข่าวนี้ได้ ขณะที่การเข้าถึงข้อมูลในเมียนมา กลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นที่จะทำการตรวจสอบ

 

ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติระบุว่า มีผู้สื่อข่าวที่ถูกทางการเมียนมาจับกุมไปแล้วราว 37 คน ในจำนวนนี้ 19 คนยังคงถูกคุมขังอยู่ นอกจากนี้ทางการเมียนมายังสั่งปิดหนังสือพิมพ์บางฉบับ ส่วนสื่ออื่นๆ ยังถูกบีบให้ต้องปิดด้วยเหตุผลบางประการ โดยหนังสือพิมพ์ของภาคเอกชนในเมียนมาแห่งสุดท้ายได้หยุดการตีพิมพ์ไปเมื่อวันที่ 17 มีนาคม

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง