“จีน” คุมแหล่งผลิต “แร่หายาก” ในเมียนมา

เหมืองแร่หายากในพม่า มีมากในรัฐฉานและรัฐคะฉิ่น และการผลิตแร่หาของเมียนมาขยายตัวเพิ่มขึ้นอยากรวดเร็ว
จากข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ(USGS) ระบุว่า ในปี 2567 เมียนมามีสัดส่วนการผลิตแร่หายากอยู่ที่ประมาณ 8% เทียบทั่วโลก ทำให้เมียนมาอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศที่ผลิตแร่หายาก รองจากจีนและสหรัฐอเมริกา
ส่วนสื่อญี่ปุ่น นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ว่า รัฐบาลจีนกำลังเร่งขยายการเข้าถึงแร่หายาก (แรร์เอิร์ท)ในเมียนมา โดยได้ยื่นคำขาดต่อกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ทางภาคเหนือของเมียนมา ว่า หากไม่มีการตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลทหาร จีนจะหยุดซื้อ
KIA ครอบครองพื้นที่การผลิตแร่แรร์เอิร์ทจำนวนมาก จากการเข้ายึดแหล่งสำคัญสองแหล่ง ได้แก่ เมืองชิปวีและปางวาร์ และ KIA ยังคงสู้รบกับกองทัพรัฐบาลทหาร โดยไม่มีทีท่าจะจบลงในเร็ว ๆ นี้
แร่หายากเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจีนมีสัดส่วนการผลิตคิดเป็นประมาณ 70% ของผลผลิตทั่วโลก และเป็นไพ่ใบสำคัญของจีนในการเจรจาต่อรองภาษีกับสหรัฐ ซึ่งเมียนมาเป็นแหล่งซัพพลายเออร์สำคัญของจีน การผลิตและแปรรูปแร่แรร์เอิร์ทเกือบทั้งหมดในเมียนมาถูกผูกขาดโดยประเทศจีนและส่งออกไปจีน
สหรัฐฯ ยังเข้าถึงแร่หายากได้เมียนมาได้น้อย เพราะนับตั้งแต่การรัฐประหารในเมียนมาเมื่อ 4 ปีก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และเมียนมาถอยห่างกันไป แต่เมื่อโดนัล ทรัมป์ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงนโยบาย โดยเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งหนังสือแจ้งอัตราภาษีศุลกากรแบบต่างตอบโต้ ไปยังเมียนมา ปกติหนังสือดังกล่าวจะส่งถึงหัวหน้ารัฐบาล และในเมียนมาจดหมายของสหรัฐฯ ส่งถึง พลเอกอาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้นำรัฐบาลทหาร ตรงนี้ สื่อญี่ปุ่น นิกเคอิ เอเชีย ระบุถึงการตีความว่า นายพลมิน อ่อง ลาย ได้รับการยอมรับจากสหรัฐฯ ในฐานะผู้นำประเทศเมียนมาแล้ว
นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า กระทรวงการคลังสหรัฐยังได้ยกเลิกคว่ำบาตรบริษัทสามแห่งและสี่บุคคลที่มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารด้วย ทำให้เห็นว่าสหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการกับเมียนมามากขึ้น โดยมีการประเมินว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนว่า สหรัฐเริ่มเข้ามากระชับความสัมพันธ์กับเมียนมา หนึ่งในเหตุผลที่กลับมาเชื่อมความสัมพันธ์คือเพื่อผลประโยชน์ในแร่หายาก แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสหรัฐสามารถจัดหาแร่หายากเมียนมาได้แค่ไหน เพราะจีนยังกุมอำนาจในแหล่งแร่หายากในเมียนมา
The Stimson Center ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยที่ไม่แสวงผลกำไรและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ ระบุเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ว่า ความพยายามที่จะเข้าควบคุมแร่หายากในเมียนมาของสหรัฐฯ นั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากข้อจำกัดด้านโลจิสติกส์ การพึ่งพาจีนของหน่วยงานท้องถิ่นในเมียนมา รวมถึง ปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาการปฏิบัติตามกฎระเบียบทางการเงิน
ทางด้านสำนักข่าว Reuters รายงานสอดคล้องกับสำนักข่าวนิกเคอิ ในเรื่องจีนกุมอำนาจในแหล่งแร่หายากในเมียนมา ว่า เมื่อเดือนมิ.ย.กองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน กำลังเข้าควบคุมและดูแลปกป้องเหมืองแร่หายากแห่งใหม่ในภาคตะวันออกของเมียนมา ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลจีนในการควบคุมทรัพยากรแร่สำคัญ ซึ่งหวังใช้เป็นเครื่องต่อรองในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
จีนแทบผูกขาดกระบวนการแปรรูปแร่หายากหนัก (Heavy rare earths) ให้กลายเป็นแม่เหล็ก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของการสร้างกังหันลม อุปกรณ์การแพทย์ และรถยนต์ไฟฟ้า
จีนต้องพึ่งพาเมียนมาอย่างมากในการนำเข้าแร่โลหะและออกไซด์ที่ใช้ผลิตแม่เหล็กเหล่านี้ โดยข้อมูลศุลกากรของจีนระบุว่า เกือบครึ่งหนึ่งหรือ 50% ของการนำเข้าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ล้วนมาจากเมียนมา
การเข้าถึงแหล่งแร่ใหม่ ๆ อย่างดิสโพรเซียม (dysprosium) และเทอร์เบียม (terbium) ของจีนต้องหยุดชะงักลง หลังพื้นที่ทำเหมืองขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของเมียนมาถูกยึดครองโดยกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร ซึ่งจีนให้การสนับสนุน โดยคนงานเหมืองชาวจีนกำลังเปิดแหล่งแร่ใหม่บนเนินเขาในรัฐฉานทางตะวันออกของเมียนมา มีคนงานประจำการอย่างน้อย 100 คน ที่ทำงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อขุดเจาะและสกัดแร่ด้วยสารเคมี
ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า สังเกตเห็นรถบรรทุกขนส่งแร่จากบริเวณระหว่างเมืองในเมียนมา ไปยังชายแดนจีนซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กิโลเมตรอยู่บ่อยครั้ง
เหมืองแร่เหล่านี้ อยู่ภายใต้การคุ้มกันของกองทัพรัฐว้า (United Wa State Army - UWSA) โดย UWSA ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในรัฐฉาน ยังควบคุมเหมืองดีบุกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีความสัมพันธ์ทางการค้าและการทหารกับจีนมาอย่างยาวนาน
ดร.แพทริก มีแฮน อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ซึ่งศึกษาอุตสาหกรรมแร่หายากในเมียนมา กล่าวกับรอยเตอร์ว่า พื้นที่ทำเหมืองเหล่านี้มีขนาดกลางถึงใหญ่ และน่าจะเป็นเหมืองแห่งแรกนอกภูมิภาคคะฉิ่นที่มีความสำคัญมีแนวแร่หายากทอดยาวตั้งแต่รัฐคะฉิ่นลงมาผ่านรัฐฉาน ไปจนถึงบางส่วนของลาว
การเข้าถึงแร่หายากกำลังมีความสำคัญเพิ่มขึ้นต่อจีน โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลจีนเริ่มจำกัดการส่งออกโลหะและแม่เหล็กหลังจากสหรัฐฯ จีน กำลังสงครามการค้าอีกครั้งในปีนี้
การที่จีน ไม่ปล่อยมือจากเหมืองแร่หายากในเมียนมา เนื่องจากเหมืองแร่ในเมียนมาสามารถทำกำไรได้มหาศาล โดยมีรายงานจากบริษัท Benchmark Mineral Intelligence ประจำกรุงลอนดอน ว่า “ บริษัทเหมืองแร่จีนสามารถผลิต ออกไซด์ของแร่หายาก (Rare Earth Oxides) ในเมียนมาได้ถูกกว่าที่อื่นถึง 7 เท่า เป็นเพราะต้นทุนต่ำและกฎระเบียบหละหลวม ทำให้มีกำไรสูงที่สูงมาก”
จีนยังควบคุมเทคโนโลยีการสกัดธาตุหายากอย่างเข้มงวด ที่นำมาการดำเนินเหมืองในเมียนมา แม้เหมืองในรัฐฉานจะมีขนาดเล็กกว่าเหมืองในคะฉิ่น แต่มีแนวโน้มว่าจะให้แร่ชนิดเดียวกัน ได้แก่ เทอร์เบียมและดิสโพรเซียม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
