ชาวไทยในสหรัฐร่วมรำลึก 1 ปี ‘วิชา รัตนภักดี’ ถูกทำร้ายเสียชีวิตในซานฟราน
ชาวไทยในหลายเมืองของสหรัฐอเมริการ่วมกันรำลึกครบ 1 ปีของการฆาตกรรมนายวิชา รัตนภักดี ชายไทยวัย 84 ปีที่ซานฟรานซิสโก ซึ่งเชื่อว่าเป็นคดีอาชญากรรมที่มีสาเหตุจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติที่พุ่งเป้ามายังชาวเอเชีย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม ตามเวลาในสหรัฐ มณฑานุช รัตนภักดี บุตรสาวของนายวิชาได้รำลึกถึงการเสียชีวิตของบิดา หลังถูกทำร้ายขณะวิ่งอยู่ในบริเวณชุมชนที่พวกเขาพักอาศัย โดยในงานดังกล่าวยังมีนายกเทศมนตรีนครซานฟรานซิสโก ผู้นำท้องถิ่น รวมถึงชาวเมืองหลายร้อยคนเข้าร่วมด้วย
ผู้จัดงานระบุว่าพวกเขาจะไม่เงียบอีกต่อไป เพราะมันเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความชอกช้ำและบาดแผลทางจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับผู้คนที่เหมือนกับคุณ และวันนี้เราจะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่รับได้เมื่อคนชราหรือผู้หญิงถูกผลักลงไปบนรางรถไฟ เสียชีวิต หรือถูกทุบตี พวกเราสมควรได้รับในสิ่งที่ดีกว่านี้
นอกจากนครซานฟรานซิสโกแล้วยังมีผู้คนอีกหลายร้อยคนใน 5 เมืองทั่วสหรัฐที่เข้าร่วมการจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยทั้งหมดออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่ถูกข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย หรือแม้แต่เสียชีวิต ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่การเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของโควิด-19
มณฑานุชบุตรสาวของวิชาระบุว่าเธอไม่ต้องการให้การเสียชีวิตของบิดาสูญเปล่า และไม่ต้องการให้ใครต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเช่นนี้อีก
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ตกเป็นเหยื่อของอคติและการเลือกปฏิบัติเนื่องจากเชื้อชาติในสหรัฐมาเป็นเวลายาวนาน แต่การโจมตีและทำร้ายร่างกายพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนเมื่อปลายปี 2562 โดยมีรายงานว่าการเกิดการก่ออาชญากรรมอันเนื่องมาจากเกลียดชังต่อเชื้อชาติในชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมากกว่า 10,000 กรณีตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ถึงเดือนกันยายน 2564