จีนเผชิญแรงกดดันอีก "อนามัยโลก" เดินหน้าสืบปม "โควิด-19" รั่วจากแล็บ

จีนเผชิญแรงกดดันอีก - วันที่ 31 มี.ค. เอเอฟพี รายงานว่า ทางการจีนเผชิญแรงกดดันอีกครั้ง ภายหลังที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความชัดเจนถึงการเดินหน้าสืบสวนสมมติฐานที่ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ซาร์ส 2 ตัวการก่อโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 อาจรั่วไหลออกมาจากสถาบันไวรัสวิทยาที่นครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นจุดแรกที่พบการระบาดของโรคโควิด-19

นายแพทย์เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวหลังการหารือกับสมาชิกคณะสืบสวน WHO ที่ลงพื้นที่เพื่อค้นหาต้นตอของไวรัส แม้ว่ารายงานของคณะสืบสวนจะมองว่าสมมติฐานการรั่วไหลนั้น "มีความเป็นไปได้ต่ำ" และมุ่งไปที่การระบาดมาจากฟาร์มสัตว์ป่ามากกว่าสร้างความยินดีให้กับทางการจีนที่พยายามนำเสนอสมมติฐานการระบาดจากฟาร์มมาแต่ต้น

ทว่า สมาชิกคณะสืบสวนหลายคนแสดงความอึดอัดถึงความยากลำบากในการเข้าถึงข้อมูลดิบจากทางการจีน

วันเดียวกัน ทางการจีนสั่งปิดพรมแดนบริเวณเมืองรุยลี่ มณฑลยูนนาน ติดกับพม่า หลังพบกลุ่มก้อนการระบาดใหม่ของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จำนวน 6 คน ในจำนวนนี้ เป็นชาวพม่าที่ข้ามแดนเข้ามาด้วย

ทางการจีนสั่งให้พลเมืองกว่า 2 แสนคน ล็อกดาวน์ทันทีเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และระดมตรวจหาเชื้อทุกคน

นอกจากนี้ มีรายงานจากทางการเยอรมนี ว่านางแองเกล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน มีคำสั่งให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากบริษัทแอสตราเซเนกา ประเทศอังกฤษ ใช้เฉพาะกับผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปเท่านั้น หลังพบว่าเกิดลิ่มเลือดในผู้ได้รับวัคซีน 31 คน จากทั้งหมดเกือบ 2.7 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 0.00115