รีเซต

DIF ใกล้เข้าสู่วัฏจักร DPU ที่เสถียร

DIF ใกล้เข้าสู่วัฏจักร DPU ที่เสถียร
ทันหุ้น
30 เมษายน 2567 ( 13:48 )
62
DIF ใกล้เข้าสู่วัฏจักร DPU ที่เสถียร

#DIF #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทยมีมุมมองเชิงบวกต่อ DIF คาดกำไรปกติไตรมาส 1/67จะอยู่ที่ 2.9 พันลบ. ลดลง 3% YoY แต่เพิ่มขึ้น 2.2% QoQ คิดเป็น 26.6%ของประมาณการกำไรปกติปี 2567 ของเราคาด DPU ไตรมาส 1/67 จะอยู่ที่ 0.217บาท ลดลง 11.3% YoY 4% QoQ หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 78.4% อัตราตอบแทนเงินปันผลต่อปีที่ 11.2% และคิดเป็น 25% ของประมาณการ DPU ปี 2567 ของเรา

คงคำแนะนำ "ซื้อ" จาก DIF ที่ดูน่าสนใจแม่ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด (NPV 8.90บาท, DPU สะสม 13.60 บาท, IRR 7.1%) ณ ราคาต่อหน่วยปัจจุบัน

 

Investment Topics

พรีวิวไตรมาส 1/ 2567 DIF มีกำหนดประกาศงบการเงินไตรมาส 1/2567 ในวันที่ 13 พ.ค. โดยคาดมีกำไรสุทธิ 2.7 พันลบ. หากไม่วมผลขาดทุนจากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ กำไรปกติน่าจะอยู่ ที่ 2.9 พันลบ. ลดลง 3% YoY จากรายได้ค่าเช่าที่ลดลงจากการยกเลิกสัญญาเช่าของ DTAC แต่เพิ่มขึ้น 2.2% QoQ เนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายลดลง กำไรปกติไตรมาส 1/2567 ของเราน่าจะคิดเป็น 26.6% ของประมาณการกำไรปกติปี 2567 ของเรา

 

เงินปันผล บล.กสิกรไทย ประเมินว่า DIF จะประกาศจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนประกาศผลประกอบการ โดยมี DPU ไตรมาส 1/2567 ที่ 0.217 บาท ลดลง 11.3% YoY 4% QoQ DPU ไตรมาส 1/2567 ของเราน่าจะบ่งชี้ถึงอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 78.4% อัตราตอบแทนจากเงินปันผลต่อปีที่ 11.2% และคิดเป็น 25% ของประมาณการ DPU ปี 2567ของเรา

 

แนวโน้ม บล.กสิกรไทยเชื่อว่ากระแสเงินสดในอนาคตอย่างน้อย 10 ปีข้างหน้าของ DIF น่าจะค่อนข้างคงที่ตามสัญญาเช่าหลักที่จะสิ้นสุดในปี 2576 ในปี 2567เราเชื่อว่ารายได้ค่าเช่าหลักของ DIF จะลดลง สาเหตุหลักมาจากการยกเลิกสัญญาเช่าจาก DTAC (คิดเป็น 3% ของรายได้รวม) ที่เริ่มลดการเช่าตั้งแต่ไตรมาส 2/2566จนถึงสิ้นสุดสัญญาเช่าวันที่ 31 มี.ค. 2567

 

นอกจากนี้ DIF มีกำหนดชำระหนี้คงค้างในปี 2567 จำนวน 1.25 พันลบ. (0.12 บาทต่อหน่วย เทียบกับ 1.09 พันลบ.ในปี 2566 ณ ระดับปัจจุบันนี้ หนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยของ DIF ฉบับที่ 4 จำนวน 1.22 หมื่นลบ. ตรึงไว้กับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (THOR) ที่ +3% ต่อปี ในขณะที่ฉบับที่ 5 ซึ่งมีเงินกู้คงเหลือ จำนวน 1.4 หมื่นลบ.ตรึงไว้ที่อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน THOR + 3.75 ระยะเวลาครบกำหนดชำระหนี้คงเหลือคือปี 2568 สำหรับหนี้ฉบับที่ 4 และ ปี 2570 สำหรับหนี้ฉบับที่ 5เราได้รวมรายได้ค่าเช่าที่ลดลงจาก DTAC และการชำระหนี้ในการประเมินมูลค่าของเรา ดังนั้นเราประเมินว่า DIF น่าจะสร้าง DPU ในปี 2567/68 ที่ 0.87/0.87 บาท ซึ่งคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนต่อปีที่ 11.2%

 

Valuation and Recommendation

แนะนำ "ซื้อ" บล.กสิกรไทยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ DIF ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 11.10 บาท ปัจจัยหนุนตัวคูณมูลค่าที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ 1) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรขาลง และ 2) คำชี้แจงของ TRUE เกี่ยวกับการสร้างรายได้จากเสาสัญญาณมือถือ market IRR ที่คำนวณของเราคือ 10.5% สำหรับกรณี perpetuity

 

สถานการณ์เลวร้ายสถานการณ์กรณีที่เลวร้ายของเราอาจเป็น 1) ไม่มีการต่อสัญญาเช่าทรัพย์สินเสาสัญญาณมือถือหลังปี 2576 2) TRUE ตัดสินใจซื้อเสาสัญญาณคืนจาก DIF ในราคา 1 ลบ./เสา และ 3) ไม่มีการต่อสัญญาเช่าทรัพย์สินเคเบิลใยแก้วนำแสงหลังปี 2586สถานการณ์นี้ส่งผลให้ market IRR อยู่ที่ 7.1% DPU สะสมที่ 13.6 บาท และมูลค่ายุติธรรมที่ 8.90 บาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง