อินโดฯ สั่งแบน Temu ขอ Google - Apple ปิดกั้นหวั่นกระทบ SME ในประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า บูดิ อาริ เซติอาดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศของอินโดนีเซีย ส่งคำร้องไปยังกูเกิล (Google) และแอปเปิล (Apple) สองบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เจ้าของร้านค้าแอปพลิเคชันออนไลน์ อย่าง Play Store และ App Store เพื่อปิดกั้นแอปพลิเคชัน Temu แอปฯขายของจากจีนที่กำลังมาแรงมาก ไม่ให้มีการดาวน์โหลดในประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารฯ เปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว เพื่อปกป้องธุรกิจ SME ในประเทศจากสินค้าราคาถูกที่ส่งตรงจากโรงงานจีน แม้ว่าตอนนี้ยังไม่พบการทำธุรกรรมใด ๆ จากแพลตฟอร์มนี้ เนื่องจากว่า Temu มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพการแข่งขันในตลาดของอินโดนีเซีย
ไม่เพียงแต่ Temu เท่านั้น อินโดนีเซียยังมีแผนที่จะทำแบบเดียวกันกับแอปพลิเคชันช็อปปิ้งเสื้อผ้าของจีน อย่าง Shein อีกด้วย
ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อินโดนีเซียได้ดำเนินการต่อแพลตฟอร์มขนาดใหญ่จากต่างประเทศ เพราะก่อนหน้านี้ TikTok ที่มีคนใช้งานทั่วโลกหลักพันล้านยูเซอร์ เพิ่งถูกรัฐบาลอินโดนีเซียสั่งปิดบริการ E-Commerce ของ TikTok เพื่อปกป้องผู้ค้าในท้องถิ่นและข้อมูลของผู้ใช้
ทำให้หลายเดือนต่อมา TikTok ที่ยังต้องการอยู่ในตลาด E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าซื้อหุ้นใน GOTO.JK ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีของอินโดนีเซีย เพื่อเปิดหน่วยงานที่ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซใหม่โดยเฉพาะ
ด้วยประชากรในประเทศกว่า 270 ล้านคน มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ทำให้อุตสาหกรรม E-Commerce มีแนวโน้มที่จะขยายตัวเป็นประมาณ 160,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2030 จาก 62,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 ตามรายงานของ Google, Temasek Holdings ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ และ Bain & Co ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา และยังไม่รวมธุรกิจรายย่อย หรือ SME อื่น ๆ ก็ไม่แปลกที่หลายแพลตฟอร์มจะต้องทำตามนโยบายของอินโดนีเซีย
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ Reuters