จุรินทร์ โชว์ตัวเลขค้าชายแดน มูลค่าสูง 1.5แสนล้าน+38% ปีนี้โตต่อเนื่อง 5 เดือนรวด มูลค่ารวม 6.7 แสนล้านบาท
ค้าชายแดน–ผ่านแดนผงาด ! จุรินทร์ โชว์ตัวเลข“พฤษภาคม” มูลค่าสูง150,858 ล้านบาท +38% ปีนี้โตต่อเนื่อง 5 เดือนรวด มูลค่ารวม 677,078 ล้านบาท คาดปี 64 ทะลุเป้า “ไปต่อ” เตรียมพบทูตลาว ลุยเปิดด่าน ทำเงินเข้าประเทศเพิ่ม
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุขที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในนายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แถลงข่าวเรื่องการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และการช่วยประชาชนในภาวะโควิด-19 ณห้องประชุมชั้น 11 อาคารสํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประกาศตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนพฤษภาคมปีนี้ มีมูลค่าสูงถึง 150,858 ล้านบาทคิดเป็นอัตราเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว +38.38% เมื่อแยกการค้าชายแดนกับการค้าผ่านแดนออกจากกัน การค้าชายแดนเดือนพฤษภามีมูลค่า 75,659 ล้านบาท +4.13% การค้าผ่านแดนเดือนพฤษภามีมูลค่า75,199 ล้านบาท +7.45% สำหรับเดือนมกราคม–พฤษภาคม ช่วง 5 เดือน การค้าชายแดนกับการค้าผ่านแดนมีมูลค่า 677,078 ล้านบาท+29.15% การค้าชายแดนอย่างเดียว มูลค่า 371,040 ล้านบาท+19.85% การค้าผ่านแดน 5 เดือนมูลค่า 306,038 ล้านบาท +42.57%
การค้าชายแดนแยกแต่ละประเทศ มาเลเซียมูลค่า 134,474 ล้านบาท+53.00% ลาว 87,369 ล้านบาท +13.30% เมียนมา 78,833 ล้านบาท+6.9% กัมพูชา 70,364 ล้านบาท -0.68% ส่วนการค้าผ่านแดนไป จีนมีมูลค่า 140,406 ล้านบาท +54.85% เป็นบวกเยอะมากเกินกว่าร้อยละ 50 สิงคโปร์ 46,478 ล้านบาท +28.74% เวียดนาม 28,586 ล้านบาท+15.73%
การค้าชายแดนและผ่านแดนที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น มีปัจจัยสำคัญจากเศรษฐกิจเพื่อนบ้านและทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนที่จะทำให้การเปิดเมืองและการกลับมาของกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีได้มากขึ้น และจากการที่กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายกรมการค้าต่างประเทศเร่งผลักดันยอดการค้าชายแดน ซึ่งเป็น 1 ใน 14 แผนงานหลักของกระทรวงฯ ปี2564 ให้เน้นการทำงานเชิงรุก โดยล่าสุดเพื่อเป็นการตอบรับสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กระทรวงฯ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ
” เหตุผลสำคัญที่ทำให้การค้าเป็นบวกก็คือ ประการที่หนึ่ง เนื่องจากการจับมือทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนในรูปกรอ.พาณิชย์ สามารถดำเนินการร่วมกันในการเร่งรัดการเปิดด่านจาก97 ด่านที่ปิดลงไปเยอะ สามารถที่จะเปิดด่านได้ถึง 46 ด่าน ขณะเดียวกันก็มีการเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาเชิงรุกในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อให้สินค้าที่จะข้ามแดนแต่ละประเทศสามารถผ่านไปได้โดยสะดวกรวดเร็วขึ้นแม้มีปัญหาอุปสรรคหลายประการก็สามารถแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
ประการที่สอง เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านเริ่มฟื้นตัวเพื่อส่งเสริมการค้าหรือเร่งรัดตัวเลขการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน 1.จะเร่งเปิดด่าน ขณะนี้มีเป้าหมาย 11 ด่าน ให้เปิดได้เร็วที่สุดภายใต้ข้อจำกัดโควิด เพื่อให้การค้าเดินหน้าต่อไปได้ โดยที่เป็นรูปธรรมที่สุด 1 กรกฎาคมเดือนนี้เวลา 09.00 น. ตนได้เรียนเชิญท่านทูตลาวประจำประเทศไทยเข้ามาหารือที่กระทรวงพาณิชย์เพื่อหาทางร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทย–ลาวและการค้าผ่านแดนระหว่างไทย–ลาวต่อไป นอกจากนั้นตนก็จะเดินทางไปภาคอีสานในช่วงวันที่ 9-11 กรกฎาคม ซึ่งก็มีจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นต้น โดยที่อุบลฯ จะไปเร่งรัดการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เร่งรัดการเปิดด่านปากแซง นาตาล และแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นที่ด่านช่องเม็กเป็นต้น 2.จะเร่งจับมือกับภาคเอกชนในนาม กรอ.พาณิชย์ขจัดปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นเชิงรุกโดยเร็ว3. กำหนดกิจกรรมที่จะช่วยเหลือผู้ส่งออกรายย่อยโดยเฉพาะผู้ส่งออกที่เป็นเอสเอ็มอีหรือไมโครเอสเอ็มอีเอส ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนหรือแหล่งเงินกู้ที่จำเป็นต่อสถานการณ์ปัจจุบันโดยจะจัดโครงการ “จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับเอสเอ็มอีส่งออก” ในวันที่ 7 กรกฎาคมที่จะถึงนี้รายละเอียดจะแถลงให้ทราบต่อไป ” นายจุรินทร์กล่าว