KCG ลั่นQ4ผลงานนิวไฮน์ ผุดแคมเปญรับเทศกาลเจ

KCG ลั่น Q4/2566 ผลงานพีคสุดในรอบปี อานิสงส์เข้าช่วงไฮซีซัน หนุนดีมานด์พุ่ง พร้อมย้ำเป้าปีนี้รายได้โต 10% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว แถมลุยออกสินค้าเพิ่ม-แคมเปญใหม่ กรุยทางสร้างแบรนด์-รับทรัพย์เพิ่ม แถมลุย “KCG Logistics Park” คาดเปิดบริการได้ปีหน้า
นายวาทิต ตมะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ KCG เปิดเผยว่า บริษัทคาดในไตรมาส 4/2566 ผลงานเติบโตต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 3/2566 และน่าจะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้ เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลขาย (ไฮซีซัน) ส่งผลให้ยอดขายสินค้าต่างๆ ของธุรกิจขยายตัวค่อนข้างมาก
ปีนี้รายได้ตามนัด
สำหรับทิศทางผลประกอบการปี 2566 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน 6,232.7 ล้านบาท หลังช่วงครึ่งแรกปีนี้มีรายได้แล้ว 3,287.99 ล้านบาท ประกอบกับทิศทาง ประกอบกับช่วงที่เหลือปีนี้ยังดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นการเข้าช่วงฤดูกาลขาย นอกเหนือ จากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มากขึ้น จึงน่าจะได้เห็นทิศทางยอดขายปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าเทศกาลเจของไทยในปี 2566 จะกลับมาคึกคักขึ้นกว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ เคซีจี ทุ่มงบเพื่อโปรโมทกิจกรรมทางการตลาดในช่วง เทศกาลเจในปีนี้อย่างเต็มที่ ด้วยการเปิดตัวแคมเปญพิเศษ “เจนี้ดีต่อใจ” ที่วางกลยุทธ์การตลาดไว้แบบครบ 360 องศา รวมหลากหลายไฮไลท์และเปิดมิติใหม่ของเทศกาลเจในเมืองไทยให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่ง KCG เชื่อมั่นว่าการทำกิจกรรมทางการตลาดในครั้งนี้
อัดแคมเปญรับทรัพย์
โดยเทศกาลกินเจในปีนี้ทาง KCG ได้ทุ่มงบประมาณ 5 ล้านบาท เพื่อจุดประกายไอเดียเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้บริโภค โดยได้นำแนวคิดในการสร้างสรรค์เมนูเจในสไตล์ “เวสเทิร์น (Western)” เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ให้แก่แทศกาลเจของประเทศไทย เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารเจได้แบบไม่จำเจ อีกต่อไป
จากการสำรวจและวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคพบว่า เมนูอาหารเจแบบเดิมๆ ที่เน้นเป็น เมนูอาหารประเภทผัด ทอด โดยใช้วัตถุดิบหลักเป็นแป้งและผักต่างๆ คือเมนูที่คนไทยคุ้นเคยมาแต่ช้านาน ส่งผล ให้ผู้บริโภคบางส่วนอยากให้เมนูอาหารเจมีความหลากหลายและแปลกใหม่ยิ่งขึ้นในปีนี้ KCG จึงได้สร้างสรรค์ ทางเลือกใหม่เพื่อลบภาพจำเมนูเอาหารเจแบบเก่า ด้วยการนำเสนอเมนูเจสไตล์ตะวันตกในรูปแบบและรสชาติ ใหม่ๆ ยกระดับเมนูเจทั้งเมนูคาวและหวานแบบครบครัน
*อาหารเจไม่จำเจ
โดยได้ร่วมกับทีม KCG Ambassador Chef นำโดย เซฟวิลล์เมนท์ ลีออง, เชฟบีบ-ชัชชญา รักตะกนิษฐ และเชฟเมย์-พุทธนันท์ ธงทอง ฯลฯ พัฒนาคู่มือการ ทำอาหารเจในสไตล์ตะวันตก (Cookbook) ที่รวม 30 เมนูเจดีต่อใจเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่รับเทศกาลเจ ปี 2566 ซึ่งแคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่ 16 กันยายน -23 ตุลาคม 2566
ขณะเดียวกันยังจะเป็นการสร้างกระแสการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในทุก Life Style ของผู้บริโภค และช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เบื้องต้นบริษัทคาดการณ์ว่า แคมเปญ “เจนี้ดีต่อใจ” จะเป็นหนึ่งในแคมเปญที่ช่วยผลักดันให้รายได้ของเคซีจีในปี 2566 เติบโตไปตามแผนงานที่ได้วางไว้
นายวาทิต กล่าวเสริมว่า ไม่เพียงเท่านั้นบริษัทได้มีการทุ่มงบราว 300 ล้านบาท เพื่อสร้าง “KCG Logistics Park” หรือศูนย์กระจายสินค้าแบบแช่แข็ง (Frozen) และแบบอุณหภูมิห้อง (Ambient) และคลังสินค้าที่มีความทันสมัยและครบวงจรที่สุด ณ โรงงานเทพารักษ์ คาดจะแล้วเสร็จในปี 2567 ทำให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
*กูรูส่องกำไรโต
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง KCG ว่า ประเมินกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติปี 2566 คาดว่าอยู่ที่ 326 ล้านบาท หรือเติบโต 64% จากปีก่อน และกำไรสุทธิปี 2567 คาดอยู่ที่ 401 ล้านบาท โต 23% ส่วนกำไรสุทธิปี 2568 คาดอยู่ที่ 473 ล้านบาท โต 18% จากปีก่อน การเติบโตของกำไรมาจากการเติบโตของสินค้าเดิม สินค้าใหม่ ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น และการขยายกำลังการผลิต
ขณะที่ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ของ KCG ที่ 6,518-7,936 ล้านบาท หรือเทียบเป็นราคา 12.0-14.60 บาทต่อหุ้น โดยอิงวิธีการประเมินมูลค่ากิจการแบบ DCF และ PEG เลือกวิธี PEG เนื่องจากสะท้อนการเติบโตของ KCG ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าที่มีแผนงานรองรับการเติบโตอย่างชัดเจน โดยใช้ PEG ที่ 0.80-0.97 เท่า (ค่าเฉลี่ยของบริษัทในอุตสาหกรรมอาหาร ขนม และเบเกอรี่) เมื่อนำไปคิดกับ KCG EPS ปี 2567 ที่ 0.74 บาทต่อหุ้น (ใช้ปี 2567 เนื่องจากเป็นปีที่มีการเติบโตอย่างเสถียร)