"OR" มองไกล-ใกล้ เหมาะลงทุนอย่างไร?

#ทันหุ้น - บล.ดาโอ ส่องหุ้น บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR คงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายที่ 16.00 บาท อิง 2568 PER ที่ 21.1x (-2.1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER 5 ปีย้อนหลังของกลุ่มค้าปลีก) 

ประเมินว่า OR จะรายงานกำไรสุทธิ Q4/67 ที่ 2.6 พันล้านบาท (สูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดก่อนหน้านี้) เทียบกับกำไร 193 ล้านบาท ใน Q4/66 และขาดทุน 1.6 พันล้านบาทใน Q3/67 โดยสูงขึ้น YoY, QoQ หลักๆ ตามปริมาณขายน้ำมันในประเทศและกำรขั้นต้นต่อลิตร (GP/litre) ที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ฝ่ายวิจัยเชื่อว่ารายได้ของธุรกิจ Lifestyle จะสูงขึ้นตามจำนวนสาขาที่สูงขึ้นและจำนวนยอดขายที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าบริษัทจะต้องมีการบันทึกการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ (loss on impairment of assets) ที่เป็นไปได้เพิ่มเติมจากจากการออกจากธุรกิจที่ไม่สร้างกำไรหลังจากรับรู้ผลขาดทุนจาก Texas Chicken และ Kouen Sushi ไปแล้วใน Q3/67

ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567/68 ที่ 6.0/9.1 พันล้านบาท เทียบกับ 1.11 หมื่นล้านบาทใน ปี 2566 โดยมีสมมติฐานที่สำคัญ คือ 1) GP/litre จะลดลงอยู่ในช่วง Bt0.84/litre-Bt0.90/litre จาก Bt1.00/litre ในปี 2566 จากผลกระทบจากการรับรู้ผลขาดทุนจากสต๊อก (stock loss), 2) EBITDA margin ของธุรกิจ Lifestyle ที่อยู่ในช่วง 25.3%-26.8% เทียบกับ 26.7% ในปี 2566 สะท้อนผลกระทบจากการตั้ง loss on impairment of assets และ 3) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (equity income) ที่ลดลงอยู่ในช่วง 8-117 ล้านบาท เทียบกับ 539 ล้านบาทในปี 2566 เนื่องจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX loss) สำหรับธุรกิจในเมียนมาร์

ราคาหุ้นปรับตัวลง 28% และ underperform SET -27% ในช่วง 6 เดือน สะท้อนความกังวลต่อความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ (regulatory risk) ที่เป็นไปได้จากการที่กระทรวงพลังงานเตรียมร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่เพื่อครอบคลุมอำนาจใช้กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมเพดานภาษีน้ำมันและการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (oil fuel fund) 

ทั้งนี้ แม้ราคาปัจจุบันจะสะท้อน 2568 PER ที่ไม่แพงที่ 14.9x (ประมาณ-3.0SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER 5 ปีย้อนหลังของกลุ่มค้าปลีก) แต่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าความไม่ชัดเจนของ regulatory risk อาจจะเป็น overhang ต่อราคาหุ้นในระยะสั้นถึงกลางได้