'เปรมชัย' ขอแพทย์ตรวจร่างกาย เพื่อออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำที่ กทม.

เปรมชัย’ ร้องขอแพทย์ตรวจร่างกาย จาดกอาการเจ็บป่วย เพื่อออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ที่ กทม. หลังศาลฎีกาตัดสินจำคุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา ‘คดีล่าเสือดำ’

จากกรณี ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ‘คดีล่าเสือดำ’ จำคุก นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 14 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ก่อนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทองผาภูมิ

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 9 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุม โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่เรือนจำ รวมถึงเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด

ซึ่งทราบจากแหล่งข่าวว่า ภายหลังจาก เรือนจำทองผาภูมิ ได้รับตัว นายเปรมชัย เข้าเรือนจำแล้วตั้งแต่วานนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR พร้อมนำตัว นายเปรมชัย พร้อมพวก ไปอยู่ที่แดนกักโรคตามมาตรการคัดกรองโควิด-19 เป็นเวลา 21 วัน ซึ่งเป็นอาคารที่ตั้งอยู่โซนด้านหน้าของเรือนจำ

โดยมีญาติของ นายเปรมชัย นำผ้าห่มไปเพิ่มให้กับ นายเปรมชัย ขณะที่ทราบว่าวันนี้ นายเปรมชัย ได้ร้องขอให้แพทย์ รพ.ทองผาภูมิ ไปตรวจร่างกาย เนื่องจาก นายเปรมชัย ทำเรื่องขออนุญาตออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำที่ กทม. ส่วนทางแพทย์ รพ.ทองผาภูมิ จะให้ไปช่วงใดนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์ ก่อนที่เรือนจำทองผาภูมิจะเป็นผู้พิจารณาในการส่งตัว นายเปรมชัย ออกไปรักษาหรือไม่ต่อไป

ขณะที่ นายกฤตศิลป ช่วยศรี อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 7 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดทองผาภูมิ ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้เกี่ยวกับเรื่องอาการเจ็บป่วยของ นายเปรมชัย ไว้ว่า “นายเปรมชัย มีอาการป่วยทางสายตา รวมทั้งโรคผิวหนัง และอาการป่วยด้วยโรคเบาหวาน นั้น เป็นเรื่องของทางราชทัณฑ์ที่จะปฏิบัติต่อผู้ต้องขังระหว่างถูกจำคุก และเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องขัง เราไม่เข้าไปก้าวล่วงในส่วนนี้"

สำหรับเรื่องของการควบคุมตัวจำเลยเข้าเรือนจำ ก็จะเป็นไปตามมาตรการของทางเรือนจำ ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR และกักตัวตามมาตรการ ส่วนสิทธิ์ของผู้ต้องขังหากมีอาการเจ็บป่วย ก็อาจจะใช้สิทธิ์ในการขอเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ ส่วนจะเป็นโรงพยาบาลใดนั้น เป็นสิทธิ์ที่ นายเปรมชัย จะมอบหมายให้ทนายความดำเนินการได้ ส่วนการพิจารณาก็ต้องแล้วแต่ทางเรือนจำ ที่จะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วานนี้ขณะที่ นายเปรมชัย เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา สังเกตพบว่า มีผ้าปิดแผลขนาดใหญ่ที่บริเวณดวงตาข้างซ้าย คล้ายกับมีอาการบาดเจ็บ และใช้ไม้เท้าพยุงขณะเดิน โดยมีลูกน้องคอยช่วยพยุงตลอดเวลา ขณะที่ ทนายความของ นายเปรมชัย ไม่ได้ชี้แจงหรือให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับบาดแผลดังกล่าว รวมทั้งอาการป่วยของ นายเปรมชัย แต่อย่างใด