ผู้บริหาร UOB China ชี้ สายสัมพันธ์เศรษฐกิจ-การค้า 'จีน-อาเซียน' แยกกันไม่ขาด

(แฟ้มภาพซินหัว : ตู้สินค้าที่ท่าเทียบเรือปาซีร์ ปันจัง ในสิงคโปร์ วันที่ 17 ส.ค. 2020)
สิงคโปร์, 9 เม.ย. (ซินหัว) -- ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารยูโอบี (ไชน่า) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่ดี และสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-อาเซียนนั้นแยกกันไม่ขาด โดยการบูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมระดับทวิภาคีจะลึกซึ้งยิ่งขึ้นเมื่อไม่นานนี้ ซินเธีย ซิน ผู้จัดการทั่วไปของธนาคารฯ สาขาปักกิ่ง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่าจีนและอาเซียนมีปรัชญาการพัฒนาและห่วงโซ่อุตสาหกรรมร่วมกัน ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายได้พัฒนาจากการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าไปสู่การบูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมซินมองว่าตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา จีนได้สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่ครอบคลุมหลายสาขา อาทิ การผลิตระดับไฮเอนด์ และห่วงโซ่อุตสาหกรรมดังกล่าวอยู่ระหว่างการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้จีนมีจุดแข็งอย่างเห็นได้ชัดจีนซึ่งเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน สามารถขยับขยายและขับเคลื่อนการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมของอาเซียนผ่านความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงทางเศรษฐกิจและการค้าอื่นๆปริมาณการลงทุนระหว่างจีนและอาเซียนเพิ่มขึ้นพร้อมกับสัดส่วนการลงทุนแบบกรีนฟิลด์ (greenfield) หรือการก่อตั้งบริษัทสาขาหรือการลงทุนใหม่ที่ขยายตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าการบูรณาการห่วงโซ่อุตสาหกรรมระหว่างทั้งสองฝ่ายจะลึกซึ้งยิ่งขึ้นอีกซินเผยว่าพันธมิตรทางธุรกิจชาวจีนมักคำนึงถึงการประหยัดต้นทุนและประสิทธิภาพมากกว่า เธอจึงมั่นใจในผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของจีน และคิดว่ากลุ่มทุนและบริษัทในต่างประเทศจะยังคงสนใจในจีนตราบเท่าที่จีนยังเปิดกว้าง