บริษัทจีนเคลม AI ตัวใหม่ เจ๋งไม่แพ้ ChatGPT-4 ท่ามกลางสงครามการพัฒนา Generetive AI ของสองชาติมหาอำนาจ
ท่ามกลางการพัฒนาและการเปิดตัวเอไอที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์ หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อว่า Generative AI ยกตัวอย่าง เช่น แชตจีพีที (ChatGPT) ของโอเพนเอไอ (OpenAI) หรือเจมิไน (Gemini) ของกูเกิล (Google) ในสหรัฐอเมริกา แต่จีนเองก็มี Generative AI ตัวใหม่ ที่ชื่อว่า เซนซ์โนว่า 5.5 (SenseNova 5.5) ซึ่งประกาศว่ามีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่า GPT-4 หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของโอเพ่นเอไอ ซีรีส์ 4
Generative AI จีนอาจที่เจ๋งไม่แพ้ GPT-4 จากสหรัฐอเมริกา
ในรายงานข่าวจากเว็บไซต์อินเทอร์เรสติง เอ็นจิเนียริง (Interesting Engineering) นั้นไม่ได้ระบุถึงความสามารถของ AI จากจีนโดยตรง เพียงแต่อ้างจากการแถลงข่าวในงานเปิดตัวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ได้อ้างอิงว่ามีความสามารถที่คล้ายกับ GPT-4 นั่นแปลว่า SenseNova 5.5 จะมีความสามารถในการแปลงคำสั่งเพื่อสร้างภาพ สร้างวิดีโอ รวมไปถึงพูดโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ
โดย SenseTime บริษัทผู้พัฒนา SenseNova 5.5 มีแผนการให้โทเคน (Token) หรือค่าที่กำหนดขอบเขตการเข้าใช้บริการไว้ที่ 50 ล้านโทเคน ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาที่ต้องการใช้บริการ SenseNova 5.5 สามารถเข้าถึงบริการในปริมาณที่มากได้ หลังจากที่ปัจจุบันการใช้บริการด้าน AI จากสหรัฐอเมริกาถูกระงับ
สงคราม AI: จีน VS สหรัฐอเมริกา
โดยเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา OpenAI ได้ประกาศว่าผู้ใช้งาน โดยเฉพาะผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ในจีนจะไม่สามารถเข้าถึง API (ชุดคำสั่งสำหรับติดต่อระหว่างบริการของผู้พัฒนากับบริษัทที่ให้บริการ ซึ่งในกรณีนี้ OpenAI) ได้อีกต่อไป
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้จีนก็ปิดกั้น (Blocked) ไม่ให้ผู้พัฒนาไปใช้งาน Generative AI ของสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ฝั่งสหรัฐอเมริกาก็บล็อกไม่ให้คนจีนเข้าใช้งานผ่านเครือข่ายเสมือน (VPN) เพื่อใช้บริการ OpenAI เช่นกัน
ก่อนหน้านี้มีรายงานจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization : WIPO) ว่าจีนยื่นขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับ Generative AI ระหว่างปี 2014 - 2023 ทั้งสิ้น 38,210 รายการ มากกว่าสหรัฐอเมริกาเกือบ 6 เท่า รวมถึงมีการเปิดตัวบริการ Generative AI มากกว่า 130 โมเดล หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของ Generative AI ทั่วโลกในปัจจุบัน
ข้อมูลจาก Interesting Engineering