รีเซต

แฮร์รี-เมแกน เผยสมาชิกราชวงศ์อังกฤษนิ่งเฉยเรื่องเหยียดผิว กดดันจนเมแกนคิดฆ่าตัวตาย

แฮร์รี-เมแกน เผยสมาชิกราชวงศ์อังกฤษนิ่งเฉยเรื่องเหยียดผิว กดดันจนเมแกนคิดฆ่าตัวตาย
บีบีซี ไทย
8 มีนาคม 2564 ( 12:23 )
60
แฮร์รี-เมแกน เผยสมาชิกราชวงศ์อังกฤษนิ่งเฉยเรื่องเหยียดผิว กดดันจนเมแกนคิดฆ่าตัวตาย

เจ้าชายแฮร์รี ดยุคแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ พระชายา ประทานสัมภาษณ์พิเศษในรายการโทรทัศน์ของพิธีกรชื่อดัง โอปราห์ วินฟรีย์ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐฯเป็นแห่งแรก ถึงสาเหตุการยุติบทบาทในฐานะพระราชวงศ์ชั้นสูงของราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ยุคใหม่

 

ชีวิตจริงไม่เหมือนเทพนิยาย

โอปราห์เริ่มการสนทนากับดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ก่อน โดยย้อนรำลึกถึงความทรงจำในวันประกอบพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งเมแกนได้เผยถึงความรู้สึกในวันนั้นว่า "ฉันรู้สึกล่องลอยเหมือนกับดวงจิตออกจากร่าง มันไม่ใช่แค่วันของเราสองคน แต่เป็นวันที่เตรียมการไว้เพื่อคนทั้งโลก"

 

ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ยังเผยว่า อันที่จริงแล้วเธอกับเจ้าชายแฮร์รีได้ประกอบพิธีเสกสมรสเป็นการส่วนพระองค์ 3 วัน ก่อนถึงวันงานที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

ส่วนความคาดหวังและสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหลังเข้าเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษนั้น เมแกนบอกว่าในตอนแรกยังไม่เข้าใจถึงความหมายของการเป็นพระราชวงศ์ที่ต้องทรงงาน ซึ่งไม่อาจจะรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในแต่ละวัน "คุณถูกตัดสินจากภาพที่ทุกคนมอง แต่กลับต้องอยู่กับความจริงที่ไม่เหมือนในเทพนิยาย"

 

เมื่อกล่าวถึงการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองเป็นครั้งแรก เมแกนบอกว่าเป็นการพบกันอย่างไม่เป็นทางการมากนัก แต่เจ้าชายแฮร์รีได้ทำให้ประหลาดใจ ด้วยการตรัสถามว่าเธอถอนสายบัวถวายความเคารพเป็นหรือไม่

"ฉันนึกว่าพิธีการแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่ออยู่ในสายตาคนภายนอกเท่านั้น ไม่นึกว่าจะต้องทำเมื่ออยู่เป็นส่วนตัวภายในครอบครัวด้วย ตอนนั้นก็เลยต้องฝึกซ้อมถวายความเคารพด้วยการถอนสายบัวเสียก่อน"

 

"สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงอบอุ่นอ่อนโยนและทรงยินดีต้อนรับฉันเสมอ ฉันคิดว่าพระราชวงศ์ทุกพระองค์ก็เช่นเดียวกัน"

โอปราห์ได้ถามถึงกรณีที่มีข่าวความบาดหมางระหว่างเมแกนกับแคเทอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เรื่องชุดของเด็กหญิงโปรยดอกไม้ในพิธีเสกสมรส ซึ่งมีข่าวเล่าลือว่าเมแกนทำให้แคเทอรีนต้องเสียน้ำตานั้น ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ชี้แจงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงนั้น "ตรงกันข้าม" และเธอเองต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องร้องไห้ อย่างไรก็ตามแคเทอรีนได้แสดงการขออภัยในเวลาต่อมา ทำให้เธอไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ให้ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ต้องเสียหาย "เพราะว่าเธอเป็นคนดี"

 

เมแกนยังบอกว่าไม่ทราบถึงสาเหตุที่สื่อมวลชนมักเปรียบเทียบเธอกับดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ โดยกล่าวถึงเธอในแง่ลบเสมอ "แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการขายเรื่องเล่าที่มีทั้งวีรสตรีและหญิงร้ายอยู่ในนั้นเอาเสียจริง ๆ"

 

เมแกนคิดฆ่าตัวตาย

ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ยังกล่าวถึงการถูกจำกัดเสรีภาพในเรื่องต่าง ๆ หลังเข้าเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งแม้กระทั่งจะไปรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนฝูงก็ยังไม่สามารถจะทำได้ ทำให้รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวอย่างยิ่ง เธอยังถูกสั่งให้ปิดปากเงียบไม่ให้ข่าวกับสื่อมวลชน ตั้งแต่ตอนที่เริ่มคบหากับเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งในตอนแรกเธอคิดว่ามันคือการช่วยปกป้องตัวของเธอเอง แต่ในภายหลังมันไม่ใช่อย่างที่คิด

 

"ในทันทีที่เราแต่งงานกัน ทุกอย่างก็เริ่มเลวร้ายลง ทำให้ฉันเริ่มเข้าใจว่าไม่ได้เป็นคนที่ถูกปกป้องเลย พวกเขายินดีจะโกหกเพื่อปกป้องสมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่น ๆ แต่ไม่ต้องการจะพูดความจริงเพื่อปกป้องฉันกับสามี"

 

ส่วนเรื่องที่โอรสของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ไม่ได้รับการอวยยศให้เป็นเจ้าชายนั้น เมแกนบอกว่ากรณีนี้ส่งผลให้ลูกของเธอไม่ได้รับการคุ้มกันรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกับสมาชิกราชวงศ์โดยทั่วไป และดูเหมือนว่าอาร์ชี่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะเป็นพระราชปนัดดาที่มีเชื้อสายคนผิวสี

 

"เมื่อฉันตั้งท้อง พวกเขาก็เปลี่ยนกฎเรื่องการอวยยศทันที ทั้งที่พวกเขาไม่มีสิทธิจะทำเช่นนั้น"

"พระราชวงศ์บางพระองค์ถึงกับบอกแฮร์รีว่า พวกเขากังวลใจว่าลูกของเราจะเกิดมามีสีผิวคล้ำมากขนาดไหน จะมีหน้าตาเป็นยังไง"

 

"เรื่องทุกอย่างมันสะสมมาถึงจุดแตกหัก จนฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ความคิดน่ากลัวนี้เกิดขึ้นบ่อยมากและไม่หายไปง่าย ๆ ฉันคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะเห็นว่ามันคงจะช่วยแก้ปัญหาทุกเรื่องให้กับทุกฝ่ายได้"

"ฉันเคยขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้จากราชวงศ์ แต่ได้รับการปฏิเสธ"

 

ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ยังกล่าวถึงสำนักพระราชวัง หรือที่เธอเรียกว่า "บริษัท" ว่าเป็นตัวการสำคัญในการแพร่ข่าวเท็จเกี่ยวกับเธอและเจ้าชายแฮร์รีด้วย "มันหนักเสียจนฉันอยากจะตะโกนว่า ใครสักคนช่วยพูดความจริงหน่อยได้ไหม ถ้าการพูดความจริงจะทำให้สูญเสียทุกอย่าง ฉันก็เสียมามากแล้ว ทั้งพ่อ ลูกในท้อง และความเป็นตัวของตัวเอง"

 

แฮร์รีเผยสาเหตุการยุติบทบาทหน้าที่ในราชวงศ์

เมื่อเจ้าชายแฮร์รีเข้าร่วมการสัมภาษณ์ในรายการช่วงหลัง ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ได้เปิดเผยว่าทารกในครรภ์ของเมแกนขณะนี้เป็นเพศหญิง

เจ้าชายแฮร์รีตอบคำถามของโอปราห์ในเรื่องที่ว่า ทรงปิดบังแผนการยุติบทบาทในฐานะพระบรมวงศ์ที่ต้องทรงงาน ไม่ให้สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงทราบในตอนแรกหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าชายแฮร์รีตรัสชี้แจงว่าไม่มีการปิดบังแต่อย่างใด เพราะทรงมีความเคารพในพระอัยยิกาเป็นอย่างมาก โดยได้กราบทูลเรื่องดังกล่าวทางโทรศัพท์ถึงสามครั้ง ก่อนจะมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ

 

ส่วนเจ้าชายแห่งเวลส์พระบิดาของพระองค์นั้น ทรงปฏิเสธที่จะตรัสกับเจ้าชายแฮร์รีอีก หลังมีการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างกันได้เพียงสองครั้ง เจ้าชายแฮร์รีเผยว่าเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ "ผมตัดสินใจจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยตนเอง"

"เราอยากจะหายใจนอกกำแพงที่ปิดกั้นเราไปเสียทุกเมื่อบ้าง สิ่งที่ผมห่วงมากที่สุดก็คือเหตุประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ซึ่งผมก็เห็นว่ามันกำลังเดินซ้ำรอยเดิมอยู่ในตอนนั้นแล้ว"

 

เจ้าชายแฮร์รีเผยว่าสถานการณ์ของพระองค์นั้นอันตรายยิ่งกว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเจ้าหญิงไดอานา พระมารดา ทั้งเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ ทั้งการแสดงความเห็นของสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ ทรงพยายามขอความช่วยเหลือให้ทุกฝ่ายหยุดการโจมตีเสียที แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือนั้น คนรอบข้างยังคอยตอกย้ำให้ทรงยอมรับสิ่งที่เป็นอยู่อีกด้วย

สำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในประเทศแคนาดานั้น เจ้าชายแฮร์รียังทรงกังวลเรื่องที่ไม่ได้รับการคุ้มกันรักษาความปลอดภัยเยี่ยงพระราชวงศ์ทั่วไป และสาธารณชนรู้กันหมดว่าที่ประทับของพระองค์อยู่ที่ไหน เจ้าชายตรัสประชดติดตลกว่า "ต้องขอบคุณหนังสือพิมพ์เดลี่เมล"

 

ดยุคแห่งซัสเซกซ์เผยว่า ทรงพยายามขอความช่วยเหลือเรื่องปัญหาต่าง ๆ จากทางราชวงศ์อังกฤษ ขณะที่ยังทรงเป็นพระบรมวงศ์ที่ต้องปฏิบัติกรณียกิจทางการอยู่ แต่ก็ถูกปฏิเสธเสมอ ทำให้ทรงหมดหวังและต้องการยุติบทบาทการทำหน้าที่ดังกล่าวเสีย "แต่เราไม่ได้ออกจากราชวงศ์ เราไม่ได้ทอดทิ้งครอบครัวไปไหน"

 

"ความเจ็บปวด" ที่ราชวงศ์นิ่งเฉยต่อการเหยียดผิว

เจ้าชายแฮร์รีตรัสว่า ไม่ได้ทรงเปิดเผยเรื่องที่เมแกนมีความคิดจะฆ่าตัวตายให้พระราชวงศ์พระองค์ใดได้รับรู้ "สำหรับพวกเขาแล้ว มันถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเกิดขึ้น พวกเขามีความคิดว่าเราไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทุกคนในราชวงศ์ก็เคยผ่านมันมาหมดแล้ว"

"แต่สถานการณ์ของผมแตกต่างออกไป เพราะมีเรื่องของเชื้อชาติและสีผิวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทางราชวงศ์มีโอกาสที่จะแสดงการสนับสนุนแนวคิดต้านการเหยียดผิวต่อสาธารณชนได้ แต่พวกเขาก็ไม่ทำ ไม่มีใครออกมาพูดอะไรเลยตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา นี่เป็นเรื่องที่ผมเจ็บปวดมาก"

 

"ตอนนี้ผมรู้ถึงจุดยืนของครอบครัวผมเป็นอย่างดีแล้ว ราชวงศ์อังกฤษกลัวหนังสือพิมพ์หัวสีโจมตีเป็นที่สุด"

เมแกนยังปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าชายแฮร์รีตัดสินใจยุติบทบาทหน้าที่ในราชวงศ์ "มันเป็นไปไม่ได้เลย ฉันทิ้งทุกสิ่งมาเพื่อเขา และเรามีแผนการจะใช้ชีวิตแบบนี้กันมาตั้งแต่ต้นแล้ว"

 

ด้านเจ้าชายแฮร์รีตรัสว่า คงจะทรงไม่ได้ทำเช่นนี้หากไม่ได้มาพบรักและใช้ชีวิตครอบครัวกับเมแกน "เมื่อก่อนผมติดอยู่ในกรงขังที่ไม่มีทางออกอยู่แล้ว พ่อกับพี่ชายผมก็เช่นกัน พวกเขาขยับไปไหนไม่ได้ ซึ่งทำให้ผมก็เห็นใจอย่างมาก"

 

Stephen Pond/Getty Images
นักวิจารณ์หลายคนมองว่าสื่ออังกฤษนำเสนอข่าวดัชเชสแห่งเคมบริดจ์และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์อย่างลำเอียง

 

ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากราชวงศ์

สำหรับเรื่องที่ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ได้ทำสัญญาธุรกิจ เพื่อเผยเรื่องราวชีวิตของทั้งคู่ทาง Netflix และ Spotify นั้น ดยุคแห่งซัสเซกซ์ตรัสว่า "นี่ไม่ใช่เรื่องที่เราคิดวางแผนกันมาก่อน แต่ผมต้องทำเพราะมีความจำเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย ราชวงศ์ตัดความช่วยเหลือทางการเงินกับผมไปแล้ว และผมต้องการเงินจ่ายค่ารักษาความปลอดภัย เมื่อเราย้ายมาอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย"

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าชายแฮร์รียังทรงมีพระมรดกที่เจ้าหญิงไดอานาผู้เป็นพระมารดาประทานให้อยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนความสัมพันธ์กับบรรดาสมาชิกราชวงศ์อังกฤษในปัจจุบันนั้น เจ้าชายแฮร์รีเผยว่าส่วนใหญ่ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยทรงพูดคุยกับพระอัยยิกามากขึ้นในปีก่อน ซึ่งนับว่าได้ทรงเชื่อมสัมพันธ์กันมากกว่าตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

แต่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์กับเจ้าชายแห่งเวลส์ พระบิดา จะยังอยู่ในช่วงที่เย็นชาห่างเหิน "ผมยังรักท่านเสมอ แต่ก็รู้สึกผิดหวังจริง ๆ เพราะท่านก็เคยผ่านประสบการณ์แบบเดียวกันมาและน่าจะรู้ว่ามันเจ็บปวดอย่างไร อาร์ชี่เองก็เป็นหลานชายของท่านแท้ ๆ"

"ผมยังรักพี่ชายของผมสุดหัวใจ เราเคยผ่านนรกที่เลวร้ายมาด้วยกัน แต่ตอนนี้เราอยู่บนเส้นทางที่แตกต่างกันแล้ว"

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง