รีเซต

ศบค.เผยไทยติดเชื้อพุ่ง 248 ราย ดับเพิ่ม 1 ราย ‘ศรีสะเกษ’ ไข่แตก พบติดเชื้อโยงคลัสเตอร์ตลาดบางแค

ศบค.เผยไทยติดเชื้อพุ่ง 248 ราย ดับเพิ่ม 1 ราย ‘ศรีสะเกษ’ ไข่แตก พบติดเชื้อโยงคลัสเตอร์ตลาดบางแค
มติชน
17 มีนาคม 2564 ( 12:27 )
46
ศบค.เผยไทยติดเชื้อพุ่ง 248 ราย ดับเพิ่ม 1 ราย ‘ศรีสะเกษ’ ไข่แตก พบติดเชื้อโยงคลัสเตอร์ตลาดบางแค

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 248 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 242 ราย แบ่งเป็นระบบเฝ้าระวังและบริการ 79 ราย และผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 163 ราย กลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 6 ราย ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยรวมสะสม 27,402 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 24,460 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 15,310 ราย รักษาหายแล้ว 26,339 ราย เหลือรักษาอยู่ 975 ราย แบ่งเป็นอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 763 ราย รพ.สนาม 212 ราย และ ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สะสม 88 ส่วนการระบาดรอบใหม่ผู้ติดเชื้อสะสม 23,165 ราย เสียชีวิตสะสม 28 ราย

 

“ผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ขยับสูงขึ้น พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับ ตลาดสดบางแค ซึ่งการรายงานผู้ติดเชื้อรายจังหวัด พบว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) มีตัวเลขที่สูงถึง 167 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.01 เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ 42 ราย ร้อยละ 17.36 ซึ่งกราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน จ.สมุทรสาคร เริ่มลดลงไป แต่เมื่อ 1-2 วันนี้มีกราฟที่ชันขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

“แผนที่ประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อรวม 64 ราย ที่เพิ่มมาใหม่คือ ศรีสะเกษ โดยจังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อมี 13 จังหวัด จังหวัดที่ยังพบผู้ติดเชื้อใน 3-6 วันที่ผ่านมามี 3 จังหวัด และจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อใน 1-2 วันที่ผ่านมามี 13 จังหวัด” พญ.อภิสมัยกล่าว

 

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 248 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังฯ 79 ราย พบใน สมุทรสาคร 26 ราย กทม. 13 ราย นครปฐม 13 ราย เพชรบุรี 2 ราย สุพรรณบุรี 3 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย ถือเป็นจังหวัดไข่แตก จากที่เป็นศูนย์มาตลอด แต่วันนี้พบผู้ติดเชื้อที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดบางแค เป็นผู้ค้าในตลาดเดินทางกลับไปบ้านที่ศรีสะเกษ

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า ส่วนตาก 9 ราย เกี่ยวกับการข้ามพรมแดน อ.แม่สอด นนทบุรี 1 ราย สมุทรปราการ 3 ราย ราชบุรี 5 ราย ปทุมธานี 1 ราย สงขลา 2 ราย ขณะเดียวกัน ผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุก 163 ราย พบใน กทม. ในสถานกักกันตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบางเขน 68 ราย โดยกรมควบคุมโรคลงพื้นที่เพื่อดูแลการจัดสถานกักกัน เบื้องต้นทราบว่า ตรวจพบเชื้อก่อนเข้าเรือนจำ และผู้ติดเชื้อจากการบริการรถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ในเขตบางแค 86 ราย สมุทรสาคร 7 ราย นนทบุรี 1 ราย เพชรบุรี 1 ราย

 

 

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า กราฟแสดงจำนวนผู้ติดเชื้อใน กทม. พบว่า ในเดือน มี.ค.มีตัวเลขสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยทางสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร รายงานว่า กรณีตลาดบางแค ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR และการเก็บตัวอย่างน้ำลาย รวมกว่า 7,299 ราย พบผู้ติดเชื้อ 268 ราย แต่การค้นหาเชิงรุกยังดำเนินการต่อเนื่อง คาดว่าวันนี้จะสามารถตรวจเพิ่มได้อย่างน้อย 1,500 ราย และยังขอความร่วมมือประชาชนที่มีประวัติสัมผัสตลาดบางแค ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ที่รถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยฯ และสถานพยาบาลใกล้บ้าน

 

“เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีการระบาดในตลาดแพร่เป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ศบค.ขอความร่วมมือตลาดสดทุกแห่งทั่วประเทศ โดยให้ทางพื้นที่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อ ร่วมมือกันเพื่อตรวจสอบ ตรวจค้นว่า ตลาดในพื้นที่มีความเสี่ยงใดบ้าง เพื่อกำหนดมาตรการก่อนเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ๆ ขึ้น โดยมีความเป็นห่วงในตลาดขายส่ง เพราะผู้ค้ามีการขายข้ามพื้นที่ รับสินค้าจากตลาดไปอีกตลาดข้ามจังหวัดอื่น ยิ่งเกิดการแพ่กระจาย เช่นเดียวกับตลาดบางแค ที่กระจายไปยังนครปฐม ศรีสะเกษ สุพรรณบุรี เป็นต้น” พญ.อภิสมัยกล่าว

 

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 448,599 ราย สะสม 121,233,426 ราย เสียชีวิตเพิ่มใหม่ 9,830 ราย สะสม 2,682,199 ราย โดยหลายสัปดาห์ที่ผ่านผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐอเมริกา บราซิล อินเดีย ดูเหมือนจะลดลง แต่สัปดาห์นี้กลับขึ้นมาอีก สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ยังขึ้นๆ ลงๆ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่ต้องติดตามใกล้ชิด เช่น มาเลเซีย ที่พบผู้ติดเชื้อใหม่ 1,063 ราย ญี่ปุ่น 782 ราย สิงคโปร์ 11 ราย กัมพูชา 105 ราย เมียนมา 15 ราย

 

อย่างไรก็ตาม พญ.อภิสมัยกล่าวว่า จำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย สะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-16 มี.ค. 53,842 ราย ซึ่งเป็นไปตามแผนการกระจายวัคซีน ที่จะทยอยฉีดมากขึ้นเรื่อยๆ แนวโน้มผู้ที่ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้รับวัคซีนแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีแผนกระจายวัคซีนไปในประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยง และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าวัคซีนมีความปลอดภัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง