‘พิพัฒน์’ เดินหน้าหาเงินทุนเพิ่ม 1 หมื่นลบ. หนุนธุรกิจท่องเที่ยวเปิดรับต่างชาติ เล็งถก ‘ขุนคลัง’ ใน ก.ค.นี้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากเปิดภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แบบไม่กักตัว หรือโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อนำร่องตามนโยบายการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวทั่วประเทศ ภายใน 120 วัน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้หารือร่วมกับภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดพบว่า สิ่งสำคัญที่เอกชนต้องการคือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน (ซอฟต์โลน) เพื่อนำมาเริ่มต้นเปิดธุรกิจให้บริการอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลาง (เอสเอ็มอี) ซึ่งรูปแบบของแหล่งเงินทุนที่ต้องการนั้น อยากให้ออกมาในลักษณะเงินทุนของภาคการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ หรือการจัดเป็นกองทุนขึ้นมา กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จึงเตรียมขอหารือกับนายอาคม พิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อขอให้พิจารณาจัดสรรสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ในวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท จาก พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทก้อนล่าสุด เพื่อนำมาช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวรายที่ต้องการหาเงินทุนในการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมรับการกลับมาเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งรูปแบบเบื้องต้นในการขอสินเชื่อ เป็นการให้ผู้ประกอบการค้ำประกันไขว้กัน หรือการช่วยกันค้ำประกันระหว่างธุรกิจต่อธุรกิจ เนื่องจากมีผู้ประกอบการบางส่วนที่ยังสามารถไปต่อได้ และอยากเดินหน้าธุรกิจต่อ แต่ที่ผ่านมาใช้เงินทุนสำรองไปหมดแล้ว รวมถึงทรัพย์สินที่สามารถใช้ค้ำประกันได้ก็ไม่มี จึงต้องการการค้ำประกันในรูปแบบดังกล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นับเฉพาะวันที่ 1 – 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี แม้ในช่วงแรกพบว่ามีปัญหาในขั้นตอนการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาบริเวณสนามบินภูเก็ต จนเกิดความล่าช้าทำให้ใช้เวลาอยู่ในสนามบินนานกว่าที่ประเมินไว้ อาทิ จำนวนเจ้าหน้าที่ให้บริการยังไม่เพียงพอ หรือระบบอาจยังไม่เสถียรมากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงเริ่มต้นใหม่ แต่ล่าสุดทุกหน่วยงานได้เร่งแก้ไขปัญหาเหล่านั้นแล้ว เพื่อให้ต่างชาติใช้เวลาอยู่ในสนามบินน้อยที่สุด โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยกันดูแล และหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไว้ล่วงหน้าด้วย เพระาต้องการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้เวลาในสนามบินไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น โดยจาการรายงานข้อมูลเที่ยวบินที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ 2 วัน คือวันที่ 1-2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้โดยสารรวมแล้วเกือบ 900 คน ซึ่งจากจำนวนทั้งหมดมีผลการตรวจการหาเชื้อโควิด-19 เป็น Not Detected หรือไม่พบเชื้อไวรัส และสามารถเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ทันที รวมถึงล่าสุดในวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินของการบินไทย ซึ่งถือเป็นเที่ยวบินแรกที่นำนักท่องเที่ยวจากยุโรปบินตรงมาถึงภูเก็ต คือ เที่ยวบิน TG 923 เส้นทางแฟรงก์เฟิร์ต-ภูเก็ต จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของประเทศไทย เพราะต่อจากนี้จะมีอีกหลายเที่ยวบินทยอยเข้ามาที่ภูเก็ตเพิ่มเติมด้วย อาทิ วันที่ 4 กรกฎาคม มีเที่ยวบินจากยุโรปอีก 2 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบิน TG 917 เส้นทางลอนดอน-ภูเก็ต และเที่ยวบินที่ TG 973 เส้นทางซูริก-ภูเก็ต โดยมีจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางจากยุโรปทั้ง 5 เส้นทาง จำนวน 300 คน และตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ การบินไทยยังแจ้งว่า มีจำนวนยอดจองที่นั่งล่วงหน้าแล้วกว่า 1,300 คน
“กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังต้องเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ช่วงไตรมาส 3/2564 หรือเฉพาะเดือนกรกฎาคม-กันยายนนี้ จำนวน 1 แสนคน สร้างรายได้ 8,900 ล้านบาท และทั้งปีน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทุกช่องทาง เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย จำนวน 3-4 ล้านคน ส่วนปี 2565 คาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีก หลังจากประเทศจีนเปิดให้ประชาชนเดินทางออกมาเที่ยวนอกประเทศได้” นายพิพัฒน์ กล่าว