รีเซต

ยาหยอดตานาโนคิวโบโซมที่สกัดจาก "ผลฟักข้าว" ทางเลือกใหม่รักษาจอประสาทตาเสื่อมโดยไม่ต้องฉีดยา

ยาหยอดตานาโนคิวโบโซมที่สกัดจาก "ผลฟักข้าว" ทางเลือกใหม่รักษาจอประสาทตาเสื่อมโดยไม่ต้องฉีดยา
TNN ช่อง16
25 กันยายน 2568 ( 08:22 )
20

ทีมนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัย RMIT และ ศูนย์วิจัยดวงตาออสเตรเลีย (CERA) พัฒนายาหยอดตารุ่นใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยี นาโนคิวโบโซม (Cubosome) สำหรับนำส่งสารสำคัญไปยังจอประสาทตา 

ผลการวิจัยครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นเสื่อม เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย (AMD) โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการฉีดยาเข้าตาเหมือนที่ผ่านมา

วิธีการพัฒนาและส่วนผสมของยาหยอดตา

สำหรับเทคโนโลยีนาโนคิวโบโซม (Cubosome) นั้นเป็นอนุภาคลิพิดขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติห่อหุ้มและปกป้องโมเลกุลที่บอบบางได้ ก่อนจะปลดปล่อยออกมาอย่างควบคุมภายในดวงตา 

ในการทดลอง นักวิจัยได้บรรจุ ลูทีน ที่พบในผักใบเขียว ไข่ และผลฟักข้าว ลงไปในคิวโบโซม เพื่อส่งตรงไปยังเนื้อเยื่อด้านหลังของดวงตา ซึ่งปกติแล้วเข้าถึงได้เพียงผ่านการฉีดยาเท่านั้น 

นักวิจัยพบว่าผลฟักข้าว (Momordica cochinchinensis) เป็นผลไม้พื้นถิ่นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเนื้อสีส้มแดงเข้มที่อุดมด้วยแคโรทีนอยด์ โดยเฉพาะ ลูทีน ซีแซนทีน ไลโคปีน และเบตาแคโรทีน ซึ่งล้วนมีบทบาทในการปกป้องดวงตาจากความเครียดออกซิเดชันและแสงสีฟ้า

ผลฟักข้าว (Momordica cochinchinensis)

ผลการทดลอง 

โดยในสัตว์ทดลอง ยาหยอดตานาโนคิวโบโซมสามารถส่งลูทีนไปถึงจอประสาทตาได้จริง และยังคงสภาพที่อุณหภูมิห้องได้นานหลายเดือน อีกทั้งยังช่วยปกป้องเซลล์จอประสาทตาจากความเสียหายที่เชื่อมโยงกับการสูญเสียการมองเห็น ซึ่งนักวิจัยมองว่าเป็น แนวทางป้องกันโรคที่สะดวกกว่า และมีศักยภาพลดความถี่ในการฉีดยา 

ชาร์ล็อตต์ คอนน์ (Charlotte Conn) นักวิจัยจาก RMIT อธิบายว่า “คิวโบโซมทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันจิ๋ว ที่สามารถควบคุมการปล่อยสารสำคัญเมื่อเข้าสู่ดวงตา” 

ส่วนดาว เหงียน ผู้ร่วมวิจัยเสริมว่า “การฉีดยาเข้าตาซ้ำๆ มักทำให้ผู้ป่วยไม่สบายตัวและเกิดความทุกข์ใจ การมียาหยอดตาที่ป้องกันล่วงหน้าได้จะช่วยลดความเสี่ยงและความจำเป็นในการฉีดได้อย่างมาก”

ความสำคัญต่อการรักษา 

แม้การวิจัยยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่นับเป็นการแก้ไขอุปสรรคสำคัญในการนำสารออกฤทธิ์ผ่านกระจกตาไปถึงจอประสาทตาอย่างควบคุมและตรงจุด ที่สำคัญ แพลตฟอร์มคิวโบโซมยังสามารถดัดแปลงใช้กับยาชนิดอื่นได้ ไม่จำกัดแค่ลูทีนเท่านั้น 

เตี่ยน ฮวีญ (Dao Nguyen) หัวหน้าทีมวิจัยจาก RMIT กล่าวว่า “เราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเทคโนโลยีนี้สามารถนำพาส่วนผสมที่บอบบางไปยังด้านหลังของดวงตาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งถือเป็นความท้าทายหลักในการรักษามานานหลายสิบปี”

ศักยภาพในอนาคต 

งานวิจัยมุ่งเน้นไปที่การรักษา AMD ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ แม้ว่ายังไม่ได้ทดสอบโดยตรงในผู้ป่วยโรค แต่เป็นเป้าหมายของการทดลองก่อนคลินิกที่จะตามมา พร้อมกันนี้ยังมีแนวทางเสริมอื่น เช่น คอนแทคเลนส์ที่ปลดปล่อยยา 

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเชื่อว่า หากพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพได้จริง ยาหยอดตาอาจกลายเป็นแนวทางใหม่ในการดูแลผู้ป่วย AMD และโรคจอประสาทตาร้ายแรงอื่น ๆ 

ชี ลู่ (Chi Luu) รองศาสตราจารย์จาก CERA และมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น สรุปว่า “หากแพลตฟอร์มนี้ยืนยันผลได้สำเร็จ เราอาจจะได้เห็นยาหยอดตาที่ใช้รักษา AMD ระยะเริ่มต้นและโรคจอประสาทตาอื่นๆ โดยไม่ต้องอาศัยการฉีดยาอีกต่อไป”

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง