จับสลากเบอร์พรรค-สมัคร สส. เปิดฉากศึกเลือกตั้ง 2569 คึกคักทั่วประเทศ

การจับสลากหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการเปิดรับสมัคร สส. ทั้งระบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ระหว่างวันที่ 27-28 ธันวาคม 2568 ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของกระบวนการเลือกตั้งทั่วไปปี 2569 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 บรรยากาศโดยรวมสะท้อนความคึกคักทางการเมือง หลังการยุบสภา โดยมีพรรคการเมืองทุกขนาดเร่งจัดทัพ ส่งผู้สมัคร และวางยุทธศาสตร์สู้ศึกเลือกตั้งอย่างเต็มที่
ไทม์ไลน์สำคัญ สู่วันหย่อนบัตร
คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดกรอบเวลาชัดเจน เริ่มจากการเปิดรับสมัคร สส. แบบแบ่งเขต ระหว่างวันที่ 27-31 ธันวาคม 2568 และการเปิดรับสมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ ระหว่างวันที่ 28-30 ธันวาคม 2568 ก่อนเข้าสู่ช่วงหาเสียงเต็มรูปแบบ จนถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งนับเป็นการเลือกตั้งใหญ่ครั้งแรกของปีการเมืองใหม่
ไฮไลต์จับสลาก “ปาร์ตี้ลิสต์” เบอร์เดียวทั่วประเทศ
การจับสลากหมายเลขพรรคการเมืองสำหรับการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ มีพรรคการเมืองเข้าร่วมถึง 52 พรรค โดยพรรคที่มาลงทะเบียนก่อนเวลา 08.30 น. ต้องเข้าสู่กระบวนการจับสลาก ขณะที่พรรคที่มาช้ากว่าจะได้รับหมายเลขต่อท้าย
ผลการจับสลากถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหมายเลขดังกล่าวจะถูกใช้เป็น “เบอร์พรรค” บนบัตรเลือกตั้งใบที่สองทั่วประเทศ และเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารทางการเมืองตลอดช่วงหาเสียง โดยเฉพาะพรรคขนาดใหญ่ที่มีฐานเสียงทั่วประเทศ
พรรคที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้หมายเลข 9 ถูกมองว่าเป็นเลขมงคล จดจำง่าย และเอื้อต่อการทำแคมเปญเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หมายเลข 6 ซึ่งเป็นเลขตัวเดียวเช่นกัน ช่วยลดต้นทุนการสื่อสารและการจดจำของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ด้าน พรรคประชาชน ได้หมายเลข 46 แม้เป็นเลขสองหลักและอยู่ลำดับท้าย แต่แกนนำพรรคแสดงความมั่นใจในพลังฐานเสียง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ใช้สื่อออนไลน์ พร้อมประกาศใช้สัญลักษณ์มือและการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์มาชดเชยความซับซ้อนของตัวเลข
พรรคอื่นที่ได้หมายเลขน่าจับตา ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 27 พรรคภูมิใจไทย หมายเลข 37 พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 43 รวมถึงพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กที่ต่างหวังใช้หมายเลขพรรคเป็นจุดขายในการเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
อีกหนึ่งข้อมูลสำคัญคือ ในช่วงวันแรกของการเปิดกระบวนการเลือกตั้ง มีการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีรวม 68 คน จาก 32 พรรค แสดงให้เห็นถึง ความหลากหลายของตัวเลือกทางการเมือง และการแข่งขันที่เข้มข้นตั้งแต่ต้นเกม
สมัคร สส. แบ่งเขต แข่งขันเดือดระดับพื้นที่
ในส่วนของการรับสมัคร สส. แบบแบ่งเขต ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ดำเนินการตามสถานที่ที่ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตกำหนด ส่วนใหญ่เป็นที่ว่าการอำเภอหรือศาลากลางจังหวัด ระบบหมายเลขผู้สมัครแตกต่างจากปาร์ตี้ลิสต์ โดยผู้สมัครแต่ละเขตจะได้หมายเลขไม่เหมือนกัน ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องจดจำหมายเลขเฉพาะของผู้สมัครในพื้นที่ตนเอง
บรรยากาศหลายจังหวัด โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี และหัวเมืองเศรษฐกิจ มีการแข่งขันสูง เห็นได้จากจำนวนผู้สมัครจำนวนมาก การย้ายพรรคของอดีต สส. และการส่งผู้สมัครหน้าใหม่ลงชิงพื้นที่สำคัญ กองเชียร์และทีมงานพรรคการเมืองต่างปักหลักให้กำลังใจ สร้างสีสันตั้งแต่วันแรกของการรับสมัคร
กติกาบัตร 2 ใบ กับยุทธศาสตร์หาเสียง
การเลือกตั้งปี 2569 ยังคงใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แยกการตัดสินใจของประชาชนอย่างชัดเจน ได้แก่ บัตรเลือก สส. เขต และบัตรเลือกพรรคสำหรับ สส. บัญชีรายชื่อ ทำให้พรรคการเมืองต้องวางยุทธศาสตร์ควบคู่กัน ทั้งการส่งผู้สมัครที่แข็งแรงในระดับพื้นที่ และการสร้างภาพลักษณ์พรรคในระดับประเทศ
นักวิเคราะห์มองว่า พรรคที่ได้หมายเลขตัวเดียวหรือหมายเลขจดจำง่าย จะได้เปรียบเชิงจิตวิทยาการตลาด ขณะที่พรรคที่ได้หมายเลขซับซ้อน จำเป็นต้องลงทุนด้านการสื่อสารมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งสุดท้ายยังขึ้นอยู่กับนโยบาย ตัวบุคคล และสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงโค้งสุดท้าย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
