รีเซต

ศึกเลือกตั้งซ่อมเมืองคอน บทพิสูจน์"กล้าธรรม" จุดเปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองปักษ์ใต้

ศึกเลือกตั้งซ่อมเมืองคอน บทพิสูจน์"กล้าธรรม" จุดเปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองปักษ์ใต้
TNN ช่อง16
29 เมษายน 2568 ( 13:00 )
8

ผลการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช กลายเป็นสนามที่น่าจับตามอง เมื่อผลปรากฎว่าพรรคกล้าธรรม สามารถล้มภูมิใจไทยในฐานะแชมป์เก่าได้สำเร็จ ถือเป็นการปักธงการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในนามของพรรคกล้าธรรม ซึ่งอาจกลายเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่น่าจับตาสนามเลือกตั้งภาคใต้ 

โดยหากดูในรายละเอียดคะแนนผู้สมัคร พบว่ามีสถิติที่น่าสนใจและอาจสะท้อนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพื้นที่ ทั้งคะแนนอันดับ 1  ที่ทิ้งห่างคู่แข่งอันดับ 2 ซึ่งเป็นสามีของแชมป์เก่าจากภูมิใจไทย ไปจนถึงคะแนนของคู่แข่งอันดับ 4 จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่แม้จะส่งนักการเมืองชื่อดัง สส. หลายสมัยอย่าง “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ที่ถูกทิ้งห่างคะแนนเกือบ 10 เท่าตัว ได้ไปไม่ถึง 5,000 เสียง

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 

อันดับ 1 “สจ.บิ๊กโอ” ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ พรรคกล้าธรรม ได้ 39,039 คะแนน

อันดับ 2 ไสว เลื่องสีนิล พรรคภูมิใจไทย ได้ 28,422 คะแนน

อันดับ 3 ณัฐกิตติ์ อยู่ด้วง พรรคประชาชน ได้ 6,759 คะแนน 

อันดับ 4 ชินวรณ์ บุณยเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 4,189 คะแนน

 


3 ยุทธศาสตร์สำคัญ "กล้าธรรม" ปักธงเมืองคอน

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองว่าชัยชนะของพรรคกล้าธรรมในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย ด้วยการวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่เฉียบคมและสถานการณ์ทางการเมืองที่เอื้ออำนวย โดยมีปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

  1. ยุทธศาสตร์เชิงรุกของพรรคกล้าธรรม
    การลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องของแกนนำพรรคกล้าธรรม โดยเฉพาะ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ที่ใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุก เข้าถึงพื้นที่และฐานเสียงอย่างสม่ำเสมอ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้สนับสนุนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
  2. ตัวผู้สมัครที่แข็งแกร่ง
    "สจ.บิ๊กโอ” ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ  เป็นลูกเขยของ "ชินวรณ์ บุณยเกียรติ" อดีตแกนนำประชาธิปัตย์ แน่นอนว่าการที่ลูกเขยจะลงชิงชัยกับพ่อตาตัวเองถ้าไม่มั่นใจคงไม่กล้าลงสมัคร ขณะเดียวกันตัว สจ.บิ๊กโอ ก็มีฐานเสียงเดิมจากการเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัด ทำให้สามารถรักษาและขยายฐานเสียงได้อย่างมั่นคง ในขณะที่ฝั่งประชาธิปัตย์ “ชินวรณ์” ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่แข็งแกร่งเพียงพอจะสู้ศึกนี้ได้ เพราะมีฐานเสียงอยู่ในเขตอื่นมากกว่า
  3. ความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์
    พรรคประชาธิปัตย์ประสบปัญหาความแตกแยกภายในอย่างหนัก แกนนำยุคปัจจุบันไม่ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ขณะที่แกนนำชุดเก่าไม่มีพลังเพียงพอ ทำให้ประชาธิปัตย์อ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัดในการเลือกตั้งครั้งนี้

 

การเมืองปักษ์ใต้ “กล้าธรรม” กลายเป็นด่านหน้าของ “เพื่อไทย”

รศ.ดร.ยุทธพร มองว่าชัยชนะของกล้าธรรมครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการชนะเขตเลือกตั้งหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีนัยสำคัญทางยุทธศาสตร์ พรรคกล้าธรรมจะกลายเป็นแนวหน้าให้พรรคเพื่อไทยในการขยายอิทธิพลในภาคใต้ เพื่อสกัดกั้นการรุกคืบของพรรคภูมิใจไทยที่ต้องการขยายฐานเสียงในภูมิภาคนี้

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของกล้าธรรมในภาคใต้ยังไม่ราบรื่นนัก พื้นที่บางจังหวัด เช่น ระนอง และกระบี่ พรรคภูมิใจไทยยังมีฐานเสียงแข็งแรง ในขณะที่สงขลาและนครศรีธรรมราชจะเป็นสมรภูมิการเมืองใหญ่ที่กล้าธรรมต้องเจอกับการแข่งขันดุเดือดในอนาคต


เลือกตั้ง 62 จุดเริ่มต้นลมเปลี่ยนทิศสนามการเมืองปักษ์ใต้

ปรากฏการณ์การเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราชครั้งนี้ สะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่ เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่สนามเลือกตั้งปี 2562 เป็นต้นมา ซึ่งพบว่ามนต์ขลังของพรรคประชาธิปัตย์ที่ครองใจชาวปักษ์ใต้เริ่มเสื่อมถอย ม็อตโต้ที่ระบุว่า “สนามปักษ์ใต้ ปชป. ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ” ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป เพราะพรรคการเมืองใหม่ ๆ ทั้ง พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ และภูมิใจไทย ขยับขยายเข้ามาปักธงในภาคใต้ ขณะที่ปี 2566 เริ่มเห็นการขยับเข้ามาของพรรคก้าวไกล (พรรคประชาชนในปัจจุบัน) เริ่มแทรกตัวได้ชัดเจนขึ้น

ทั้งนี้หากเทียบเคียงจากผลการเลือกตั้งปี 2566 และผลเลือกตั้งซ่อม เขต 8 นครศรีธรรมราช จะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองที่จะเข้ามาชิงชัยในพื้นที่ปักษ์ใต้ ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีด้วยกัน 7 พรรค คือ  ประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาชาติ ประชาชน และ กล้าธรรม 

 

นักวิชาการมองว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำว่า โครงสร้างสังคมและเศรษฐกิจของภาคใต้กำลังเปลี่ยนแปลง และพื้นที่ทางการเมืองเปิดกว้างมากขึ้นพรรคกล้าธรรม แม้มีเสียงเพียง 25 เสียงในสภา คะแนนเสียงเทียบเท่าพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ แต่หากรวมฐานเสียงในอนาคตจากการเลือกตั้งท้องถิ่น เช่น อบจ. อาจกลายเป็นพรรคที่มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล และ ยังมีแนวโน้มจะร่วมมือกับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐบางส่วน หรือเครือข่ายอื่นๆ สร้างอำนาจต่อรองใหม่ในเวทีการเมืองระดับชาติ

การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่ชัยชนะของกล้าธรรม แต่ยังสะท้อนบทบาทของพรรคกล้าธรรมในสนามการเมือง และยังเป็นสัญญาณที่บอกว่าการเมืองภาคใต้กำลังเข้าสู่ยุคใหม่อย่างชัดเจน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง